พ.ต.ต.สวัสดิ์ คงแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ถนนพหลโยธินขาเข้า ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่เสียชีวิต
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นอาคารของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีสูง 5 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จุดเกิดเหตุเป็นหอผู้ป่วยโควิดส่วนขยาย กรมการแพทย์ (โรงพยาบาลสนาม) เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดรักษาผู้ป่วยโควิด 10 โดยที่บริเวณหน้าห้องน้ำพบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อนายสุขสันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เป็นผู้ป่วยโควิด ที่เข้ารับการรักษาอาการป่วย ถูกยิงเข้าที่ร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ขณะที่บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้า ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติของห้องรวมผู้ป่วยและหน้าประตูทางเข้า ถูกยิงจนกระจกแตกเกลื่อนพื้น โดยมีปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งภายในเตียงนอนของ รพ.สนาม ยังมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด อยู่ในอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ด้านข้างอาคารด้านทิศเหนือยังพบกระสุนปืนตกอยู่ 1 นัด ห่างกัน 40 เมตร บริเวณอาคารสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีอีกอาคารหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือบริเวณจุดคัดกรองมีร่องรอยการถูกยิงจนได้รับความเสียหาย
อีกทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าออกสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้เป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อลายพรางทหาร นุ่งกางเกงสีดำ สวมหมวกเบเรต์สีแดง มือขวาถือปืน ไม่สวมหน้ากากอนามัย เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอย่างบ้าคลั่ง
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวเปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีคนร้ายบุกยิงผู้ป่วยจนเสียชีวิตในโรงพยาบาลสนาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุม ด้านในมีผู้ป่วยรักษาโรคโควิด อยู่ โดยจากการสันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะไม่รู้จักกับคนตายมาก่อนเพราะผู้ก่อเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงหลายจุด โดยผู้ตายนั้นคาดว่าเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาและเจอกับคนร้ายจึงถูกยิงเสียชีวิต ประตูทางเข้าของอาคารและทางเข้าห้องผู้ป่วยคนร้ายก็ยิงจนได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ รถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปเส้นทางพหลโยธินขาออก ขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคนร้ายมีอาวุธปืน และขณะก่อเหตุไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูดำเนินการส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ