นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังร่วมประชุมติดตามการเตรียมความพร้อม Phuket Sandbox ว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงที่ประชุมถึงการเตรียมความพร้อมระบบการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล ซึ่งได้เตรียมการไว้อย่างพอเพียงทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชากรในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ฉีดเข็ม 1 ไปแล้วประมาณร้อยละ 70 เข็ม 2 ประมาณ ร้อยละ 50 และจะจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ ตั้งเป้าฉีดครอบคลุมให้ได้ถึงร้อยละ 80-90 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และลดการติดเชื้อให้มากที่สุด โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะผู้ที่เดินเข้ามาทางสายการบินเท่านั้น และทุกคนทั้งชาวไทยและต่างชาติจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อน นอกจากนี้ ได้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค โดยสุ่มตรวจประชาชนเพื่อค้นหาเชื้อในสถานที่ต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจและวางระบบการป้องกันโรคได้รวดเร็วตามสถานการณ์
“สิ่งที่กังวลคือกลุ่มแรงงานที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ที่ไม่ได้เดินทางเข้ามายังช่องทางที่ภาครัฐจัดไว้ ต้องขอความร่วมมือภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงให้เข้มงวดเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากเกิดการแพร่ระบาดการดำเนินงาน Phuket Sandbox อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ ขอให้คนไทยทุกคน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าเห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อย การนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาอาจเกิดการแพร่เชื้อได้ ซึ่งรัฐบาลอยากให้ภูเก็ตเป็นต้นแบบในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปได้” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
ทั้งนี้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเปิดพื้นที่นำร่อง สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต มีการกำหนดหลักเกณฑ์รับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนเดินทางมาถึง เช่น นักท่องเที่ยวต้องมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลางตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด กรณีที่มาจากประเทศอื่นต้องอยู่ในประเทศที่กำหนดอย่างน้อย 21 วัน ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดและมีเอกสารรับรอง กรณีเด็กที่มากับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางพร้อมกันได้กรณีเคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้ง 2 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 14 วันหรือมีผลการตรวจโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมง
เมื่อเดินทางถึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรของ ศบค. โดยโรงแรมจะต้องจัดรถรับส่งสนามบินและที่พัก, เข้ารับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก ณ โรงแรมที่พักหรือจุดตรวจ เมื่อทราบผลการตรวจแล้วไม่พบเชื้อสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ และต้องพำนักในจังหวัดภูเก็ตแล้วอย่างน้อย 14 คืนจึงจะออกนอกจังหวัดภูเก็ตได้ ยกเว้นการเดินทางออกนอกประเทศ, โรงแรมและโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการจะต้องตรวจหาเชื้อให้กับนักท่องเที่ยวด้วยวิธี RT PCR อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 หรือตามข้อกำหนดของ ศบค.ขณะนั้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด และก่อนเดินทางออกไปจังหวัดอื่น ๆ ต้องแสดงหลักฐานยืนยันการเดินทางและพำนักในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ ในจังหวัดภูเก็ตเป็นระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมีผลตรวจตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตกำหนด