นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน และหากพบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายขอให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรายดังกล่าว และเอาผิดฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จด้วย
นักร้องศรีสุวรรณจับผิดผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานปล้นทรัพย์ จี้ กกต.ตรวจสอบผ่านคุณสมบัติมาได้อย่างไร พร้อมเตรียมเดินเรื่องร้องเอาผิดป้ายหาเสียงผู้ว่าฯ/ ส.ก.ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดและ พ.ร.บ.หาเสียง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ตามกฎหมายพบว่า มีผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์(ปล้นทรัพย์)ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา และถูกจำคุกจริงตามคำพิพากษาของศาลแล้ว จึงถือได้ว่าอาจเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม ม.50(10) แห่ง พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ซึ่งผู้สมัครฯดังกล่าวถูกพนักงานอัยการเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาล และศาลอาญาธนบุรี ฐานปล้นทรัพย์(พยายาม) เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 2524/2527 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340, 83, 80 และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย.2514 ข้อ 14 จำคุกมีกำหนด 10 ปี ของกลางริบ และศาลยังให้นับโทษต่อจากในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 747/2527 อีกด้วย ส่วนศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
อย่างไรก็ตามผู้สมัครรายดังกล่าว มีหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยและทีมงาน ได้ลงไปช่วยเดินรณรงค์หาเสียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่าระบบการคัดกรองผู้สมัครหรือสมาชิกพรรคของพรรคดังกล่าว อาจมีช่องโหว่ ทำให้มีผู้ที่มีคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหลุดเข้ามาในพรรคได้
อย่างไรก็ตามแม้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร จะได้ประกาศให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว แต่ กกต.ก็มีสิทธิที่จะตรวจสอบและสอยออกไปได้ และที่สำคัญบุคคลดังกล่าวอาจต้องคดีฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จตาม ป.อ.มาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย
นายศรีสุวรรณ ได้กล่าวถึงการหาเสียงและการปิดป้ายหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ามีผู้สมัครเป็นจำนวนมากที่หาเสียงและปิดป้ายหาเสียงไม่เป็นไปตามพรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผิดต่อ พ.ร.บ.ความสะอาด และ พ.ร.บ.ระเบียบเรื้องหาเสียง ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพื้นที่รับผิดชอบทุกเขต ให้รีบเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-