เวลา 15.20 น.วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 “รมต.เฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน ได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวถึงกรณี “รองหนู”นายสมเจตน์ แสงปัญญาลิขิต อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมกับ นายเดชาวัต นามปราศรัย อายุ 50 ปี ทนายความได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดชลบุรีเพื่อดำเนินคดีอาญา กับ นักการเมืองคนดัง และผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รวม 3 คนนั้น ในข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาท”นั้น
“รมต.เฮ้ง” กล่าวว่า “เรื่องนี้ห้ามไม่ได้ เพราะว่านักการเมืองคนที่ถูก ฟ้องนั้น ไม่ฟังในเรื่องนี้ว่าปลดออกจากตำแหน่งแบบนี้ไม่มีใครทำกันเพราะตอนหาเสียงก็เดินหาเสียงด้วยกันกับประชาชน “รองหนู” เขาบอกเหตุผลแจ้งกับผมว่า ขอกู้ศักดิ์ศรีคืน เพราะเค้าเสียหายต่อชื่อเสียงและวงษ์ตระกูล ตัวผมเองจะไปห้าม “รองหนู”ไม่ให้ฟ้องก็ทำไม่ได้เพราะผมเองก็ช่วยเขาไม่ได้ตอนที่โดนปลดจากเก้าอี้รองนายกฯ”
ศึกสายเลือดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายสมเจตน์ ผู้เสียหาย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เสม็ด แต่ ถูก นายกเทศมนตรี ปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯ โดยไม่ทราบสาเหตุ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ปลด “รองหนู”ออกจากตำแหน่ง ทั้งที่มีประชาชน ต.เสม็ด จำนวนมากโทรศัพท์มาสอบถามเพราะอยากจะรู้สาเหตุที่แท้จริง ต่อมาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 นักการเมืองคนดัง ได้แชร์ข้อความของนายสมเจตน์ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE ถึง กลุ่มกิจการสภาเทศบาลต.เสม็ด มีสมาชิกสภาเทศบาลต.เสม็ด และปลัดเทศบาลต.เสม็ด มีใจความว่า “ ทต.เสม็ดแจงปลดรองนายกฯ เหตุมีหนี้สินล้นพ้นตัว เกรงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 ทต.เสม็ด กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีคำสั่งปลดนายสมเจตน์ แสงปัญญาลิขิต ตำแหน่งรองนายกฯ พ้นตำแหน่ง ในเรื่องนี้ได้มีกระแสออกมามากมาย เกี่ยวกับกรณีที่นายสมเจตน์ มีปัญหาเกี่ยวกับผู้รับเหมาก่อสร้างรวมทั้งเจ้าของโครงการหมู่บ้านในพื้นที่จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีคำสั่งปลด ซึ่งทต. กล่าวอีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกัน สาเหตุที่ปลดเนื่องมาจากได้รับหนังสือสำคัญจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี แจ้งการยึดและข้อให้แจ้งรายการภาษีประจำปีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างการค้างชำระ ตามหมายศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ได้ปรึกษานิติกรได้รับการชี้แจงว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้มีคำสั่งปลด
นายสมเจตน์ กล่าวว่า ข้อความตามที่กล่าวหาว่า “คนมีหนี้สินล้นพ้นตัว”และเป็นสาเหตุจากการปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นดูเกลียดชัง ทั้งที่ตนเองยังมิได้เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายหรือตามประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวออนไลน์ Facebook ของสำนักข่าวทีวีออนไลน์แห่งหนึ่ง ได้โพสต์เฟสบุ๊ก ผู้สื่อข่าวออนไลน์ และนักการเมืองคนดัง ได้แชร์ข้อความเรื่อง นายสมเจตน์ลงใน Facebook ส่วนตัว ความว่า #นายก..#แจงเหตุปลด#รองนายก#เพราะมีหนี้สินพ้นตัว #เกรงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่11 เม.ย.65 นายสมเจตน์ กล่าวอีกว่า การที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “คนมีหนี้สินล้นพ้นตัว”เป็นสาเหตุจากการที่ถูกนายกฯปลดออกจากตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง บุคคลทั่วไปที่เข้าถึงอาจมองว่า รองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.เสม็ด ในขณะนั้นขาดคุณสมบัติหรือความสามารถที่จะเข้ามาบริหารดูแลประชาชนในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ทั้งที่ยังมิได้เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย การกระทำของนักการเมืองและผู้สื่อข่าว ตนเองเชื่อว่ามีเจตนาใส่ความด้วยการโพสโฆษณาผ่านเพจ Facebook
ทำให้มีคนหลงผิดเข้ามาแสดงความคิดเห็นเข้าอกเข้าใจให้กำลังใจ และการโพสต์ดังกล่าวเป็นการโพสต์แบบสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ตนเองจึงเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ได้รับความอับอายไม่กล้าไปพบปะกับผู้คนและใช้ชีวิตดังเช่นปรกติและไม่สามารถดำรงตนดังเช่นผู้ทรงเกียรติเสมือนเช่นที่ผ่านมา อีกทั้งธุรกิจการค้าของตนเองก็ได้รับผลกระทบเสียหาย เพราะตนเองมีรายได้จากกิจการร้านเหล้า ขายส่งและเครื่องดื่มชูกำลังมีรายได้ 2 แสนบาท / วัน การกระทำดังกล่าวทำให้ยอดขายลดลง ขาดรายได้เหลือเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนเงิน 2 แสนบาท และสูญเสียจากการถูกปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งได้รับเงินเดือน 38,000 บาทต่อเดือน จึงขอคิดค่าความเสียหายจำนวน 1 ล้านบาท จากผู้กระทำพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งศาลจังหวัดชลบุรีได้รับคำฟ้องและจะเรียกคู่กรณีมาไต่สวนมูลฟ้องคดีต่อไป
ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี