ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ
1. กำหนดให้ใช้มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) กับ กทม.และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) และจ.ชายแดนใต้ (สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) มีกำหนดอย่างน้อย 30 วัน โดยประเมินทุก 15 วัน
2. กรุงเทพและปริมณฑล ให้ปิดแคมป์ก่อสร้างขนาดใหญ่ หยุดก่อสร้าง ให้หยุดงานห้ามเดิมทางอย่างน้อย 30 วัน ให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจตรา
3. กรุงเทพและปริมณฑล ให้โรงงานใช้วิธีการ Bubble & Seal (กำหนดให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น)
4. กรุงเทพและปริมณฑล ให้ดำเนินการควบคุมโรค โดย
4.1 ร้านอาหารต่าง ๆ ไม่ให้นั่งกินที่ร้าน
4.2 ห้างเปิดได้ถึง 3 ทุ่ม ปิดโรงหนัง ศูนย์อาหาร เพิ่มระยะห่าง
4.3 โรงแรม ศูนย์ประชุม เปิดได้ แต่งดจัดประชุมหรือจัดเลี้ยง
4.4 ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 20 คน
5. ให้เร่งตรวจหาเชื้อในพื้นที่เสี่ยง และผู้ว่า อาจปิดชุมชนที่มีการแพร่ระบาดได้
6. ให้ พม. มท. และจังหวัด องค์กรท้องถิ่น ให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง
7. ไม่ห้ามการเดินทาง แต่ให้มีการตั้งจุดตรวจการเข้าออกอย่างเข้มงวด อย่างน้อย 30 วัน ดังนี้
7.1 ผู้ที่จะออกจาก 4 จ.ชายแดนใต้ (สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) ต้องแสดงบัตร ปชช. และเอกสารแสดงความจำเป็นในการเดินทาง
7.2 สำหรับ กทม. และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) ให้ควบคุมการเดินทางของแรงงานข้าม จ.อย่างเข้มงวด เข้าออกได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าฯ เท่านั้น สำหรับประชาชนทั่วไปเดินทางได้ตามความจำเป็น (ไม่ต้องแสดงเอกสาร)
7.3 จังหวัดอื่น ๆ ให้มีจุดตรวจ หากมาจาก จ.สีแดงเข้มข้างต้น ให้ดำเนินการตามแนวปฎิบัติของ ศบค. เช่น คุมไว้สังเกต แยกกัก หรือกักตัว
8. ให้จนท.ฝ่ายความมั่นคง สตช. มท. ตรวจตรา ปราบปรามผู้มั่วสุมกันทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งผู้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
9. Work From Home ขั้นสูงสุด ในจ.สีแดงเข้มข้างต้น
10. งดจัดกิจกรรมทางสังคม สังสรรค์ งานเลี้ยงต่าง ๆ ในจ.สีแดงเข้มข้างต้น
เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. เป็นต้นไป