พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ตามที่รัฐบาล ได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) มีผล 28 มิ.ย.64 โดยกำหนดพื้นที่ 10 จังหวัด เป้าหมายเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล(นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) เพื่อชะลอและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างเร่งด่วน ว่า
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ทุกพื้นที่ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานทหาร สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกำลังเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามประกาศข้อกำหนด การควบคุมการปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ โรงงานในเขต กทม. และปริมณฑล การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกับหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อคัดกรองการเดินทางตามเงื่อนไขที่ ศบค. กำหนด ในเส้นทางเข้า-ออก จังหวัดชายแดนใต้, กทม. และปริมณฑล และเส้นทางเข้า-ออก จังหวัดอื่นๆ รวมถึงตรวจสอบสถานประกอบการ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง หน่วยสาธารณสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สนับสนุนกำลังพล ออกตรวจสอบการจำหน่ายอาหารหรือของร้านอาหารต่างๆ การเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า ตามเวลาที่กำหนด การห้ามจัดกิจกรรมต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ ศบค. และคำสั่งของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้กำหนด หากพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูล มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง