“เบียร์ ปรเมศวร์” นำทีมขอพรพระเจ้าตากสินมหาราชช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนลุยหน้าหาเสียงต่อจนนาทีสุดท้าย ประกาศมั่นใจ 4 เป้าหมาย 15 นโยบายตรงใจประชาชน เผยเตรียมทีมยุทธศาสตร์ทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า เร่งพัฒนาสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ หากได้รับความไว้วางใจ แก้ปัญหาเข้าถึงชาวบ้านหลังลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง
(17 พ.ค 65) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผ้สมัครนายกเมืองพัทยาเบอร์ 1 กลุ่มรักพัทยา นำคณะทีมผู้บริหาร และกลุ่มผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาเบอร์ 1-6 ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง เดินทางเข้าร่วมพิธีกราบไหว้ศาลตายาย และทำพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้านหน้าที่ทำการศาลาว่าการเมืองพัทยาเพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาเบอร์ 1 กลุ่มเรารักพัทยา เปิดเผยว่าที่ผ่านมาทำงานทางด้านการเมืองมาโดยตลอด จึงมีความรู้ ประสบการณ์ และเข้าใจหลักการทำงาน รวมทั้งมีการประสานงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในทุกระดับ ส่วนการหาเสียงในการเลือกตังครั้งนี้ส่วนตัวแล้วมีความมั่นใจใน 4 เป้าหมาย และ 15 นโยบายที่วางไว้อย่างครอบคลุมและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยาได้อย่างเบ็ดเสร็จ และมีการพัฒนาความเติบโตมากขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ยังคงเดินหน้าลงพื้นที่พร้อมกับกลุ่มสมาชิกหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านพี่น้องประชาชน รวมทั้งเข้าพบปะผู้ประกอบการในสาขาต่างๆเพื่อรับฟังปัญหาที่จะนำมาแก้ไขอย่าเร่งด่วนหากได้รับความไว้วางใจให้เจ้าไปทำงาน ซึ่งในส่วนของทีมแล้วมีนโยบาย 2 ด้านหลัก คือ 1.ต้องทำงานกันอย่างเต็มที่ และ 2.ต้องทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยในทีมงานมีส่วน ผสมที่ลงตัวทั้งคนรุ่นใหม่รุ่นเก่าีเพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์และประสบการณ์การทำงานของคนรุ่นเก่ามาร่วมกันทำงาน
สำหรับเมืองพัทยาที่ผ่านมาแม้จะประสบปัญหาโควิด แต่หากมองจากสถิติแล้วพบว่าเริ่มมีนักลงทุนเข้ามามากขึ้น ด้วยมองเห็นว่าเมืองพัทยาจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในอนาคตแน่นอน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีและสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและลงทุนของ EEC ดังนั้นหากได้รับโอกาสรับเลือกตั้งเข้ามาสิ่งแรกที่จะดำเนินการคือเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมากที่สุดคือเรื่องของการขุดเจาะ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเรื่องของการพัฒนาแต่อาจมีปัญหาการทำงานที่ล่าช้าจาผลกระทบจองโควิดทำให้งานต้องหยุดชะงัก ขณะที่ภาครัฐเองก็ประกาศผ่อนปรนไม่เรียกเก็บค่าปรับในส่วนของงานที่ก่อสร้างเกินสัญญาจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น เรื่องนี้จะต้องเร่งเข้าไปแก้ไขและพัฒนาระบบสาธารณูป โภค และเศรษฐกิจให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง อย่างที่เคยมีผลงานมีแล้วทั้ง การเสริมทรายชายหาด หรืออุโมงค์ลอดทางแยก ขณะที่ปัจจุบันกำลังดำเนินการเรื่องสายไฟฟ้าใต้ดิน การแก้ไขปัญหาระบบประปา และการจัดทำระบบรองรับน้ำท่วมขัง สุดท้ายคงเป็นเรื่องของประชาชนที่จะมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกคนดีมีความ สามารถเข้ามาทำงานและอยากให้ร่วมกันออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้ ด้วย
อนันต์ กิ่งสร / ชัยยศ ผู้พัฒนพงษ์ / ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี