นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนเอาผิดนายอำเภอป่าติ้ว และผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาฯ จ.ยโสธร กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และพวก พาทีมสื่อมวลชนบุกไปที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร เพื่อกล่าวหา “หลวงปู่แสง ญาณวโร” อันมีความผิดทางอาญาหลายมาตรา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช. เอาผิดนายอำเภอป่าติ้ว-ผอ.สำนักพุทธฯ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยหมอปลากับพวก จาบจ้วงหลวงปู่แสง
ข่าวที่น่าสนใจ
ขณะเดียวกันมีการอ้างว่า หลวงปู่แสงได้จับหน้าอกผู้หญิง และมีการนำคลิปภาพและเสียงที่จัดทำขึ้นในลักษณะล่อให้กระทำความผิด อันเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179 มา และใช้กิริยาวาจาและท่าทางที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นการเคารพพระอริยสงฆ์ในพุทธศาสนา จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสไม่พอใจของศิษยานุศิษย์และประชาชน เนื่องจากข้อเท็จจริง หลวงปู่แสง ท่านชราภาพมากแล้ว อายุนับ 100 ปี อีกทั้งยังมีอาการป่วยอัลไซเมอร์ จึงไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักที่จะเป็นไปตามการกล่าวหาได้
สำหรับการบุกไปสำนักสงฆ์ดังกล่าวนั้น มีนายอำเภอป่าติ้ว ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ จ.ยโสธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมคณะการเข้าตรวจค้นครั้งที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมต้องเข้าใจกฎระเบียบ และขั้นตอนวิธีการปฏิบัติต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ แต่กลับปล่อยให้ หมอปลาและพวก แสดงพฤติกรรมในลักษณะข่มขืนใจ หลวงปู่แสง ให้ยอมรับว่ากระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด อันมีลักษณะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, มาตรา 210 ฐานอั้งยี่-ซ่องโจร และยังอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ส่วนพฤติกรรมของนายอำเภอป่าติ้ว และ ผอ.พุทธศาสนาฯ จ.ยโสธร ร่วมเดินทางไปกับขบวนของหมอปลาและพวก อีกทั้งปล่อยให้มีพฤติการณ์ข่มขืนใจ จาบจ้วง และการแสดงกริยาวาจาท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อ “หลวงปู่แสง ญาณวโร” ให้ยอมรับผิดตามการกล่าวหา ถือได้ว่ามีส่วนช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้หมอปลาและคณะกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ข่าวที่เกี่ยวข้อง