จากกรณีนายสุทัศน์ ประดิษฐ์ปัญญา อายุ 58 ปี ชาวอุดรธานี โดนคนร้ายลักรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย สำหรับขับตะเวนเก็บของเก่าไปขาย เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวและหลาน แต่หลังทะเลาะมีปากเสียงกับลูก ได้หนีออกจากบ้าน มานอนที่ศาลาพักผู้โดยสารริมทาง มีคนร้ายปั่นจักรยานมานั่งคุยและดื่มเหล้าเป็นเพื่อน พอเมาแล้วเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมารถจักรยานยนต์พ่วงข้างหายไป และทิ้งจักรยานไว้ดูต่างหน้า จึงปั่นจักรยานของคนร้ายมาแจ้งตำรวจ และร่ำไห้วอนตำรวจจับคนร้ายนำรถมาคืนให้ด้วย เพราะไม่มีรถไปเก็บของเก่าหาเงินเลี้ยงครอบครัวและหลาน เป็นที่น่าเวทนา เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
วันที่ 17 พฤษภาคม เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 8 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านนายสุทัศน์ พบเป็นปูนชั้นเดียว มีนางทองป่น เพ็งสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ภรรยานายสุทัศน์ นั่งรอสามีอยู่หน้าบ้าน โดยมีญาติและชาวบ้านสอบถามเรื่องราว โดยนางป่น เล่าว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนนายสุทัศน์ทำงานก่อสร้าง เมื่อ 3 ปีก่อนนายสุทัศน์ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม จึงหันมาขับรถจักรยานยนต์ตระเวนไปเก็บของเก่าขาย เพื่อจุนเจือครอบครัว
สามีได้เก็บรวบรวมเงินสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเงินคนจน ที่รัฐบาลช่วยเหลือ ไปซื้อจักรยานยนต์เก่าจากร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในราคา 2,500 บาท นำมาต่อพ่วงข้างเพื่อขับไปเก็บของเก่านำไปขายได้ 100-300 บาท เพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว และให้เงินหลานชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ ม.1ไปโรงเรียน ส่วนบ้านตนเอาไปจำนองกับนายทุน 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 บาท เพื่อนำมาให้หลานเรียนหนังสือ โดยตนส่งดอกเดือนละ 900 บาท ต่อมานายทุนสงสารจึงลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 3 บาท ไม่มีกำหนด”
นางทองปุ่น เล่าต่อไปว่า เมื่อคืนนายสุทัศน์ดื่มเหล้า ตนจึงบ่นเพระว่าห่วงไม่อยากให้ดื่มเหล้ามาก แต่นายสุทัศน์โกรธ ได้ขี่รถจักรยานพ่วงข้างออกจากบ้านไป กระทั่งเช้าก็ยังไม่กลับมา แต่นายสุทัศน์โทรศัพท์กลับมาบอกว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างหาย จะไปแจ้งตำรวจและออกตามหาให้ได้ เพราะเป็นรถที่ใช้ทำมาหากิน เลี้ยงดูครอบครัว ตนก็บอกว่าไม่ต้องไปตามหา ให้กลับมาบ้าน เพราะเป็นห่วง เกรงจะได้รับอันตราย หายแล้วก็เก็บเงินซื้อใหม่ และไปตามหารถก็โทรศัพท์หายอีกจึงติดต่อไม่ได้ ถ้ายังไม่กลับมาบ้านตนกับลูกก็จะออกตามหานายสุทัศน์
ส่วนนางนา จันดาด อายุ 70 ปี แม่ยายนายสุทัศน์ เปิดเผยว่า ลูกเขยเป็นคนนิสัยดี ขยันทำมาหากิน ทั้งวันทั้งคืน เพื่อหาเงินส่งหลานเรียน มีรายได้วันละ 200-300 บาท จึง ไม่ค่อยพบนายสุทัศน์ เพราะจะออกไปเก็บของเก่าทั้งคืน แต่เป็นคนชอบดื่มเหล้า วันนี้ดูข่าวเห็นลูกเขยไปแจ้งตำรวจว่ารถหาย และร้องไห้ ก็รู้สึกสงสารมาก และออกตามหารถ ยังไม่กลับบ้าน จึงอยากบอกลูกเขยว่า ให้กลับมาบ้าน รถหายแล้วก็เก็บเงินซื้อใหม่
ส่วนบริเวณศาลาพักผู้โดยสาร ริมถนนเลี่ยงเมือง ตรงข้าม บขส.แห่งที่ 2 อ.เมือง จ.อุดรธานี ไม่พบนายสุทัศน์ พบรถจักรยานปั่นสีดำของคนร้าย จอดทิ้งไว้ในศาลาพักผู้โดยสาร และยังพบมุ้ง หมอน หมวก และห่อข้าว คาดว่าจะเป็นของนายสุทัศน์ จะจอดรจักรยานไว้เผื่อคนร้ายเปลี่ยนใจนำรถจยย.พ่วงข้างมาคืน
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี