เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ที่สยามสแควร์ ซอย 3 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม ได้เดินทางลงพื้นที่หาเสียง และแสดงวิสัยทัศน์ด้วยการยืนกล่าวบนกล่องลังไม้เป็นจุดแรก ในประเด็นสำคัญเพื่อตอกย้ำแนวคิด “ผู้ว่าฯของทุกคน” ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.วันที่ 22 พ.ค. 65 ย่านเศรษฐกิจสำคัญ 4 จุด ประกอบด้วยสยาม-สีลม-เยาวราช-ข้าวสาร โดยมีวัยรุ่น และคนทำงานย่านสยามให้ความสนใจ และต่อแถวยาว เพื่อขอถ่ายรูปอย่างคึกคัก ทั้งนี้ยังมีนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯกทม. เดินทางมารับฟังนโยบายและให้กำลังใจนายชัชชาติด้วย
ทั้งนี้นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ตนไม่เลือกจัดเวทีปราศรัยเหมือนผู้สมัครคนอื่นนั้น แต่เลือกเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงใน 4 จุดสำคัญของกทม. เพราะตนอยากลงพื้นที่ไปหาประชาชนมากกว่า เนื่องจากการจัดเวทีปราศรัยทำให้คนต้องมาหา แต่ตนอยากลงพื้นที่ไปดูชีวิตคนอย่างแท้จริง จึงจะลงพื้นที่แบบดาวกระจาย ซึ่งเป็นวิธีที่สนุก และได้สัมผัสกับชีวิตของประชาชนจริงๆ ดังนั้นยืนยันว่าสองปีครึ่งที่ผ่านมา ตนมีความมั่นใจนาทีนี้พร้อมยิ่งกว่าพร้อม และเชื่อว่าเดินมาถูกทางแล้วในการเป็นผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ เพราะมีอาสาสมัครจำนวนมากมาร่วมช่วยหาคำตอบให้กรุงเทพฯ เราจะทำทุกอย่าง โดยมีเสียงตอบรับจากประชาชน และเชื่อว่านโยบายที่ลงไปจะทำให้กรุงเทพฯดีขึ้นได้ ส่วนสาเหตุที่เลือก 4 จุดนี้ เพราะตนเน้นเรื่องการขนส่งมวลชนสาธารณะโดยใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เนื่องจากมีความสะดวกและวันศุกร์รถติด อีกทั้งเป็นพื้นที่ประชาชนหลายกลุ่มหลายวัย โดยเราเริ่มต้นที่สยามสแควร์เนื่องจากเป็นจุดที่มีวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่สำคัญสำหรับเมือง เพราะเขาจะเป็นคนมาดูแลเมืองต่อจากพวกเรา เขาต้องเข้าใจนโยบายเรา เพราะว่าถ้าเขาไม่มีส่วนร่วมในนโยบาย สุดท้ายต้องเอาเขามาเป็นส่วนร่วมและมาหาคำตอบร่วมกับเรา
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนจะลงพื้นที่สีลม ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนทำงาน และทำมาหาเลี้ยงเมือง ที่เขาต้องการความโปร่งใส และมีความมีประสิทธิภาพของเมือง เป็นเมืองที่ตอบโจทย์เขาและตอบโจทย์ครอบครัวเขาได้ เป็นพื้นที่สีเขียว มีร้านกีฬาที่ดีใกล้บ้าน มีความปลอดภัยที่เขาสามารถสร้างหลักปักฐานในชีวิตได้ จากนั้นจะไปพื้นที่เยาวราช ซึ่งเป็นพื้นที่วัฒนธรรมของผู้สูงวัยเหมือนคลังความคิดและประสบการณ์ของคนกรุงเทพฯ ตอนนี้มีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากโดดเดียวและว้าเหว่ไม่มีการดูแล ทั้งที่บุคคลเหล่านี้มีประสบการณ์ทั้งความคิดและพร้อมแบ่งปันให้กับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นกรุงเทพฯต้องเอื้อให้ผู้สูงอายุมาเป็นส่วนหนึ่งที่มีค่ากับสังคมโดยตนจะทำชมรมผู้สูงอายุในแต่ละชุมชนเพื่อหางานให้กับพวกเขาแล้วมาเจอกับคนรุ่นใหม่และแบ่งปันประสบการณ์กัน จากนั้นตนจะลงพื้นที่ข้าวสาร เพราะคือแหล่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เชื่อว่าอนาคตกรุงเทพจะอยู่ได้ต้องมีเศรษฐกิจสร้างสรรค์และมีสถานที่คนรุ่นใหม่หรือแม้กระทั่งคนทำงานสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดสร้างสรรค์และเปล่งประกายออกมารวมทั้งเป็นแหล่งที่แสดงถึงความท่องเที่ยวและเป็น และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เราต้องสนับสนุนเป็นศูนย์กลางภูมิภาคท่องเที่ยวให้ได้ เพราะเรามีซอฟพาวเวอร์ที่มีพลัง เราอยากทำกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่านอนมา นายชัชชาติกล่าวว่า โพลก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กระแสหลายคนก็ทำได้ดีในช่วงโค้งสุดท้าย และมีประเด็นที่นำเสนอ แต่ตนออกมาก่อนนาน ดังนั้นช่วงแรกผลโพลนำ แต่หลายคนก็มาตีตื้นช่วงหลังได้ แต่นาทีนี้เลือกใครก็ไม่เป็นอะไร แต่ขอให้ออกมาเลือกตั้งกันเยอะๆ ขอให้ผู้ชนะได้ฉันทามติและนำพวกเราเปลี่ยนกรุงเทพให้ได้ เพราะที่ผ่านมาหลายคนขับแค้นใจและหมดความหวังรู้สึกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเหมือนกับมีอำนาจอื่นเลือกให้เรา มีส.ว.มาช่วยเลือกนายกฯแต่ครั้งนี้จะเป็นพลังบริสุทธิ์จริงๆ แม้ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นแต่ก็คือพลังที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเรา ขอให้ออกมาเลือกตั้งกันให้มากๆ 90- 95% เลยก็ดี จะเลือกใครก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนที่ไว้ใจให้ได้