นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงสาวชื่อดัง ในฐานะที่ปรึกษาพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ เตรียมยื่นคำร้องต่อสภาทนายความ เพื่อขอให้ถอดถอนใบอนุญาต นายเดชา กิตติวิทยานันท์ กรณีแย่งคดีความนั้น นายกฤษณะ เปิดเผยว่า การถอดถอนใบอนุญาต หรือการร้องตรวจสอบมรรยาทการเป็นทนายความ ของทนายเดชา นั้น ตนเองขอเวลาเตรียมการอีกสักระยะ เพื่อรอดูท่าทีของ ทนายเดชา ก่อน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับนายเดชา ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ผ่านมามีทนายความรุ่นพี่หลายคน กล่าวว่าวงการทนายความจะไม่ฆ่ากัน ตนจึงตัดสินใจจะยังไม่ยื่นร้องมรรยาทนายเดชาในขณะนี้ แต่ขอดูระยะเวลาและท่าทีของนายเดชาอีกครั้ง เพราะนายเดชาถือว่าเป็นทนายความรุ่นพี่ และเป็นคนที่ตนเคารพเสมือนพ่อคนที่สอง
ทนายกฤษณะ เปิดใจจ่อยื่นร้องมรรยาท ถอนใบอนุญาต ทนายเดชา หลังถูกแย่งทำคดีการเสียชีวิตของ แตงโม พร้อมตัดพ้อทั้งน้ำตา ชีวิตพังแทบล้มทั้งยืน
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรกับนายเดชาหรือไม่ นายกฤษณะก็ระบุเพียงสั้นๆ ว่า อยากให้ ทนายเดชา เปิดใจให้กว้าง ยอมรับความเป็นจริง อย่าอาฆาตกัน และทนายเดชา ควรจะมีความอบอุ่นให้มากกว่านี้ พร้อมกับตัดพ้อเสียดายที่ไม่ได้ทำคดีการเสียชีวิตของ แตงโม ต่อจนจบ แต่ที่ผ่านมาตนเองมีการพูดคุยกับคุณแม่ของแตงโม อยู่ตลอด
ขณะเดียวกัน ทนายกฤษณะ ยังระบายความอัดอั้นตันใจ พร้อมทั้งหลั่งน้ำตา ถึงวินาทีที่โดน ทนายเดชา แย่งคดี ว่า “ในวันนั้นมีนักข่าวจากหลายสำนัก โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า มีการปลดตนออกจากการเป็นทนายความของคุณแม่แตงโม ซึ่งจะมีนายเดชา มาทำหน้าที่แทน จริงหรือไม่ ตอนแรกก็รู้สึกตกใจ ที่ได้ยินคำถามแบบนั้น แต่ด้วยความที่ตนอยากได้ยินจากปากของคุณแม่แตงโม และนายเดชา พอดีวันนั้นตนเข้าไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศ นายเดชาก็โทรเข้ามาบอกว่า ให้รีบมาที่สำนักงานด่วน มีอะไรจะคุยด้วย
ตนก็ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร จึงรีบขับรถออกมาทันที ก็เห็นนักข่าวโทรมาเป็นระยะๆ ได้ยินว่าพี่กฤษณะโดนปลดจากทนายแล้วเหรอ ตนก็เอะใจ เพราะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตนจึงขับรถมาจอดปั๊มน้ำมันก่อน ในระหว่างนั้นก็ได้โทรศัพท์ไปหาคุณแม่ของแตงโม โดยคุณแม่แตงโมบอกว่า ใครบอกว่าคุณแม่ปลดคุณ แม่ขอให้พักก่อน ให้ไปช่วยงานทนายเดชาอยู่ข้างหลังนะ สรุปคือให้ทำเอกสารในออฟฟิศ แต่ก็รู้แล้วว่าความหมายคืออะไร เลยบอกคุณแม่ว่าคุณแม่ครับ ผมยอมรับตามที่คุณแม่บอกครับ เดี๋ยวผมจะไปหาทนายเดชา เดี๋ยวจะดำเนินการ แม่ไม่ต้องคิดมาก
ในระหว่างที่กำลังขับรถไปหานายเดชาที่สำนักงาน ก็มีนักข่าวโทรเข้ามาตลอด ตนยอมรับว่ารู้สึกสับสน และกำลังยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องตั้งสติ วันนั้นรู้สึกน้อยใจ และโกรธนายเดชามาก แต่ต้องเก็บความรู้สึก คิดถึงครอบครัว และคิดว่าจากนี้ต่อไปจะทำอย่างไร ช่วงนั้นยอมรับว่าเหมือนชีวิตพัง ลูกความโทรมาขอคดีคืน โดนกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก โดนเปิดโปงเรื่องคดีความ ภรรยาก็ขอแยกทาง ทุกอย่างมันประดังประเดเข้ามาจนแทบล้มทั้งยืน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง