"ฉีดวัคซีน" หมอยง เผยข้อมูลประสิทธิภาพการรับวัคซีนโควิด จากการศึกษาต่อเนื่องทั่วโลก จะเกิดประโยชน์สูงสุดต้องมีเงื่อนไขและขั้นตอนอะไรบ้าง
ข่าวที่น่าสนใจ
“ฝีดาษลิง” ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ประสิทธิภาพในการป้องกันขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งในการฉีด วัคซีน
ข้อมูลการศึกษาวัคซีนโควิด-19 มีการศึกษาต่อเนื่องทั่วโลก พอสรุปได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพของวัคซีนขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งของการได้รับวัคซีน วัคซีน 1-2 เข็มไม่เพียงพอในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรค
- การได้รับวัคซีนครบ หมายถึง จะต้องได้รับเบื้องต้น 2 ครั้ง และกระตุ้นอีก 1 ครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง
- ในคนปกติแข็งแรงดีทุกคน ควรจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 ครั้ง
- ในกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว เช่น 608 คืออายุเกิน 60 มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค หรือมีภูมิต้านทานต่ำ กินยากดภูมิต้านทาน ควรจะได้รับอย่างน้อย 4 ครั้ง
- ประสิทธิภาพการป้องกันโรค ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งของการได้รับวัคซีน มากกว่าชนิดของวัคซีนที่ฉีด หรือสูตรการ “ฉีดวัคซีน”
- ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่โรคประจำถิ่น หรือตามฤดูกาล ประชากรส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดควรจะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลและเสียชีวิต
- ถ้าได้รับวัคซิน 2 ครั้งแล้วติดเชื้อ การติดเชื้อนั้นเปรียบเสมือนการได้รับวัคซีนเข็ม 3 ทำนองเดียวกัน การได้รับวัคซีน 3 ครั้ง แล้วติดเชื้อ จะเปรียบเสมือนการได้รับวัคซีนแล้ว 4 ครั้ง ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจะเป็นภูมิต้านทานแบบลูกผสม มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความรุนแรง ได้เป็นอย่างดียิ่ง
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง รวมกับติดเชื้อ สามารถกระตุ้นวัคซีนอีกครั้ง ที่ถือว่าเป็นเข็มที่ 4 ( ฉีด 2 ครั้ง ติดเชื้อ 1 ครั้ง จึงเทียบเท่ากับ 3 เข็มของวัคซีนมาแล้ว) อีก 6 เดือนขึ้นไป
- ผู้ที่ไม่เคย “ฉีดวัคซีน” มาก่อนหรือฉีดเพียงเข็มเดียว แล้วติดเชื้อ ควรได้รับวัคซีนกระตุ้นหลังติดเชื้อ 1 ถึง 3 เดือน
- เด็กตั้งแต่อายุ 5 ปีขึ้นไป ภาระโรค covid-19 หรือความรุนแรงของโรค จะน้อยมาก แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีน ไม่ว่าเป็นวัคซีนอะไรที่ผ่าน อย. สามารถใช้ได้ทั้งหมด (mRNA หรือวัคซีนเชื้อตาย) และในที่สุดควรจะได้ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครอง เด็กจะได้ไปโรงเรียน และจะไม่มีการปิดโรงเรียนอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างต้องเดินหน้า
ข้อมูล : Yong Poovorawan
ข่าวที่เกี่ยวข้อง