พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า จากการรับฟังข้อมูลที่ผ่านมา ตนเองถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้กับชาวจังหวัดภูเก็ต และมีการรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้วโดยเที่ยวแรกมาจากอาบูดาบี และจะมีมาต่อเนื่อง ซึ่ง14 วันข้างหน้าและไตรมาสต่อไปจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ และไม่ใช่สำเร็จโดยใครแต่เป็นคนไทยทุกคน ทุกคนคือคนไทย สื่อก็คือคนไทย ถ้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็จะสามารถขยายไปที่อื่นได้ จะนำไปใช้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องทำทีละขั้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าทำพร้อมกันจะมีปัญหา วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัด ทำพื้นที่ภูเก็ต เพราะมีศักยภาพและเป็นพื้นที่เล็กที่ควบคุมได้ การสัญจรทางบก เรือ อากาศสามารถควบคุมได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ที่อาจจะมีความเดือดร้อนจากการคัดกรอง แต่ท่านต้องรักพื้นที่ รักจังหวัดของท่าน ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกว่า 90% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการ
“วันนี้จึงอยากจะย้ำว่าการเปิดภูเก็ตไม่ใช่เรื่องของจังหวัดภูเก็ตแต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ที่ทุกจังหวัดจะต้องเริ่มมีการนำร่อง ดูความเหมาสม ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ก็ต้องทำ ”
นายกฯ เปิดเผยต่อว่า สถานการณ์ต่างประเทศ ว่าทั้งในยุโรปและประเทศเล็กและใหญ่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยเราจะประมาทไม่ได้ต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามต้องนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องมีมาตรการคือกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นจากสถิติที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั่วโลกจึงมีมาตรการควบคุมโรคคือเปิดแล้วปิด เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยได้ทำมาหากิน คือเราพร้อมสิ่งสำคัญคือเราพร้อมหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ทำต่อไปให้เป็นขั้นตอน
“ผมอยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา ขอให้ชาวภูเก็ตช่วยกันทำกติกาอย่างเคร่งครัดไม่มีการฝ่าฝืนนำคนเข้าออกจากพื้นที่ โดยไม่ถูกขั้นตอน ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศ ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตมีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนภูมิใจ เพราะเป็นการทำภารกิจเพื่อชาติ ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อประเทศในการเป็นผู้นำเปิดแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดอื่นๆก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต “นายกฯกล่าว
ขณะเดียวกัน หลายประเทศไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย แต่วันนี้เริ่มมาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ เป็นสิ่งที่รับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกากัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะตนได้ฝากความห่วงใยผ่านศบค.ผ่านกระทรวงสาธารณสุขและคณะรัฐมนตรี ตนไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19อย่างเดียวแต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเราต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง นี่เป็นมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังที่นี่ และทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด เวลาตนพูดอะไรก็ไปแปลเจตนากันผิดยอมรับว่าตนคิดเยอะ เพราะมีหลายเรื่องให้คิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้มันช้าไปหมด
“วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดี มาตลอดนั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอดเมฆฟ้าทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดียิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความสุข”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าเราเผชิญหน้ากันด้วยความรักความเห็นใจซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นพลังสำคัญ แต่ถ้าทุกคนจะคอยแต่หลบเลี่ยงมาตรการ ก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะสถานประกอบการ เห็นอยู่แล้วว่ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิด หลายอย่างรัฐบาล และกระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม รัฐบาลก็ยังต้องดูแล ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาลและเชื่อหมออย่าเชื่อคนอื่น เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ
นอกจากนี้ นายกฯขอให้ทุกคนปรบมือเพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่า การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ติดอยู่ที่เดิมขอฝากทุกคนด้วย ในช่วงท้ายนายกฯได้ฝากถึงชาวภูเก็ต ให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ เปิดไฟ มีแสงสีไม่ให้เงียบเหงา เรื่องอื่นๆรัฐบาลจะดูแล และขอบคุณชาวภูเก็ตที่รัก และฝากขอบคุณทุกจังหวัดที่ร่วมมือกัน ในการปฏิบัติตามมาตรการของศบค.ตนเป็นหัวหน้าในการแก้ปัญหา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกระดับ