“อนุทิน” ประกาศความสำเร็จ ภูมิใจไทยนโยบายกัญชา ฝากปชช.-อสม. เลือกใช้กัญชาที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

อนุทิน ประกาศความสำเร็จภูมิใจไทยนโยบายกัญชา ฝากประชาชน อสม.เลือกใช้กัญชาในมิติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่าไปใช้ในทางที่ผิดมอมเมาไม่ทำมาหากิน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ มีการจัดงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” ภายใต้แนวคิดกัญชาคืนชีวิตสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงาน มอบนโยบายการดำเนินงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยมีประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก จ.บุรีรัมย์และใกล้เคียงเข้าร่วมฟังนโยบายในครั้งนี้มากกว่า 30,000 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ที่เริ่มต้นจากชาวบุรีรัมย์ วันนี้ขอไม่พูดตามสคริปต์ แต่ขอพูดจากใจว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่ทำให้นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทยเมื่อ 4 ปีก่อนได้เกิดขึ้นที่นี่ ที่มีวันนี้ก็เพราะเริ่มจากบุรีรัมย์แห่งนี้ อย่างที่เพลงร้องว่า “สายเหนียวต้องหนูกันภัย สายอนามัยต้องหนูกัญชา” วันนี้นโยบาย 6 ต้นไม่มีแล้ว ตอนนี้จะปลูกกี่ต้นก็ได้ที่บ้านเรา เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกแล้ว แต่เป็นพืชที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดีของเรา เป็นหนทางทำมาหากิน สร้างรายได้จากการปลูกพืชกัญชา ตั้งแต่ระดับครัวเรือน กิจการ วิสาหกิจชุมชนและอุตสาหกรรม
“ต้องขอขอบคุณชาวบุรีรัมย์ที่ให้การสนับสนุนจนนโยบายกัญชาประสบความสำเร็จ พรรคภูมิใจไทยปลดล็อกกัญชา เราพูดแล้วทำ วันนี้จัดงานมหกรรมกัญชาฯขึ้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นแห่งแรก ถือเป็นการฉลองความสำเร็จของนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ เราก็ต้องกลับมาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องทั่วประเทศทราบถึงประโยชน์ของพืชกัญชาและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกมากมายที่ใช้พืชกัญชา กัญชงเป็นส่วนผสม เพื่อดูแลสุขภาพ สร้างรายได้ และพัฒนาพืชกัญชาต่อไป นอกจากนั้นในวันหนึ่งทั้งโลกนี้จะมาใช้สินค้าผลิตกัญชา กัญชงที่ผลิตในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสที่เราจะนำมาเป็นทางเลือกทำมาหากิน” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ฝากประชาชนทุกท่าน รวมถึง อสม. เลือกใช้พืชกัญชาในมิติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่าไปใช้ในทางที่ผิด ในทางมอมเมา หรือทำแล้วนั่งอมยิ้มทั้งวัน ไม่ทำมาหากินอะไรและขาดสติ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่นโยบายกัญชา กัญชงเสรีของพวกเราชาวบุรีรัมย์ที่ได้ตัดสินใจเลือกให้ตนและพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นผู้แทน ไปเป็นรัฐบาลและผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์กลับมาให้กับประชาชน อย่างที่พรรคภูมิใจไทยได้รับคะแนนเสียงแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.ครบทั้ง 8 คน จาก 23 อำเภอ มาตลอด 4 ปี ซึ่งคะแนนเสียงของชาวบุรีรัมย์เป็นคำสั่งให้ตนและพรรคภูมิใจไทยไปทำงานตามสั่งของประชาชน
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยเปิดโอกาสให้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 2562 กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในเรื่องนี้ได้มีการติดตามประสิทธิผลและความปลอดภัยของการใช้ยากัญชาในการรักษาโรคต่างๆ การเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ของประชาชน มีการเปิดคลินิกกัญชาในหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงการติดตามเรื่องความกังวลของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการส่งผลต่อจิตประสาท หรือการเสพติดนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้มีระบบการรักษาและกำกับติดตามผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยยากัญชามากขึ้น และมีความปลอดภัยสูง
ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การให้ความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเมื่อประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ จะเป็นภูมิคุ้มกันสำคัญในการทำให้กัญชาถูกใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง ดังนั้น ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ โดยเน้นทำให้เร็วและครอบคลุม ทำให้ทันก่อนที่ประชาชนจะเริ่มปลูกเองได้ เพราะประชาชนต้องมีความรู้ ตั้งแต่เรื่องโรคที่สามารถใช้กัญชาในการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น สายพันธุ์ต่างๆ ของกัญชา วิธีการปลูก และการใช้ยา หรือการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากกัญชา จึงกำหนดให้มีการจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ขึ้นใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ

ปลัดสธ. กล่าวอีกว่าสำหรับการดำเนินการของเขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งประกอบไปด้วย จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และชัยภูมิ มีการดำเนินการทั้งในส่วนต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในส่วน ต้นน้ำ มีการปลูกกัญชาถึง 53 แห่ง ปลูกกัญชงถึง 93 แห่ง, กลางน้ำ มีโรงพยาบาล GMP คือโรงพยาบาลคูเมือง ที่มีศักยภาพผลิตยากัญชา ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย เพื่อสนับสนุนทั้งเขตสุขภาพที่ 9 และเขตสุขภาพอื่นๆ ด้วย ส่วน ปลายน้ำ สามารถเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลภาครัฐครบทุกแห่ง คลินิกกัญชาทางการแพทย์ภาคเอกชน 9 แห่ง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยากัญชาทั้งแผนไทย แผนปัจจุบัน ซึ่งจุดเด่นของเขตสุขภาพที่ 9 คือผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยากัญชาแผนปัจจุบันมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มโรคผู้ป่วยระยะประคับประคอง
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังขยายไปถึงการขับเคลื่อนถึงเศรษฐกิจ การพัฒนานำไปผสมในอาหาร เช่น ลูกชิ้นยืนกินของ จ.บุรีรัมย์, หมี่โคราชของ จ.นครราชสีมา, กาละแมของ จ.สุรินทร์, หม่ำของ จ.ชัยภูมิ เพื่อเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์ของดีของแต่ละจังหวัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ที่นี่ตำบลโพธิ์เสด็จ..!! ชุมชนครองป่ามะพร้าว หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำหนักท่วมสูงกว่า 1 เมตร- “นายกแมกซ์” ระดมแจกข้าวกล่องและและน้ำดื่มพร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยฉุกฉิน หากสถานการณ์รุนแรงพร้อมอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ทันที
สุดตะลึง!! พบศพ 2 พ่อลูกนอนตายปริศนาร่างแห้งกรัง - ตะลึงเครื่องรางของขลังเต็มบ้าน
ศบภ.ทภ.4 ตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ 24 ชม. ขอประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
“กูรู” ฟันเปรี้ยง! ไทย-ว้าแดง จับปืนสู้รบแน่ หลังคิดการใหญ่หวังสถาปนารัฐ
“บิ๊กอ้วน” รุกปรับโครงสร้าง คุมลงโทษเกินกว่าเหตุในกองทัพ
“กองทัพเรือ” รุดช่วยปชช.สุไหงโก ออกจากพื้นที่น้ำท่วมฉันพลัน
“พี่สาวเมียทนายตั้ม” รอดคุก ศาลให้ประกัน 1 ล้าน สั่งห้ามออกนอกประเทศ
ตำรวจกองปราบ จับยาบ้า 5 ล้านเม็ด เครือข่ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 150 ล้าน
ชาวนนทบุรี ทำความดีถวาย "พระองค์ภาฯ" มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค แด่ผู้ป่วยติดเตียง
ปภ.แจ้งเตือน 13 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน 27 พ.ย.- 4 ธ.ค.นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น