“พรรคกล้า” แนะ​ 3​ ข้อรัฐแก้วิกฤตพลังงาน​ เผยสิ้นเดือนหนี้กองทุนพุ่งแสนล้าน​

"พรรคกล้า" แนะ​ 3​ ข้อรัฐแก้วิกฤตพลังงาน​ เผยสิ้นเดือนหนี้กองทุนพุ่งแสนล้าน​

12​ มิถุนายน​ 2565 ที่พรรคกล้า​ ​นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าแถลงวิกฤตพลังงานของไทย​ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง​ นายกรณ์ยอมรับว่า ราคาน้ำมันหน้าปั้มต่ำกว่าในประเทศกลุ่มอาเซียน เพราะมีการอุ้มราคาพลังงานจากรัฐ แต่กลับไปสร้างหนี้ให้กับกองทุนน้ำมัน ที่ตอนนี้กำลังจะแบกรับไม่ไหวแล้ว เพราะต้องนำเงินในกองทุนน้ำมัน 2 หมื่นล้าน ไปช่วยอุ้มราคาพลังงานทุกเดือน จนมียอดหนี้สะสมตอนนี้อยู่ที่ 86,000 ล้านบาท และจะทะลุ 100,000 ล้านบาทภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งปัญหาคือ กองทุนไม่ได้มีรัฐกำกับดูแล ต้องไปวิ่งกู้เงินเองจากสถาบันการเงิน แต่ปรากฎว่า ตอนนี้มีความเสี่ยง จึงไม่สามารถกู้เพิ่มได้และไม่มีรายได้ด้วย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาระยะยาวและประชาชนได้รับผลกระทบชดใช้หนี้​โดยตรงเพราะถึงแม้ราคาน้ำมันโลกจะลดลง กองทุนน้ำมันก็จะยังต้องเก็บภาษีจากน้ำมันต่อไป เพื่อนำรายได้มาชำระหนี้คืนสถาบันการเงินที่ไปกู้เงิน

นายกรณ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า คนไทยโดยปล้นมากว่า 1 ปีแล้ว เพราะจากข้อมูลราคากลั่นน้ำมันพบว่า ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อปี 2563 ราคา 0.88 บาทต่อลิตร​​ ปี 2564 ราคากลั่นน้ำมันอยู่ที่ 0.87 บาทต่อลิตร แต่ในปี 2565 ค่ากลั่นจึงอยู่ที่ 8.56 บาทต่อลิตร​ ทั้งที่ปกติ อยู่ที่ 0.87 บาทต่อลิตร เท่ากับค่ากลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ทั้งที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มเลย มันเป็นการปล้นประชาชน โดยที่รัฐบาลไม่มีคำอธิบายกับประชาชนเลย

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกรณ์​ ยังตั้งคำถามคือโรงกลั่นนี้ของใคร เพราะ​ ปตท.เป็นเจ้าของโรงกลั่นกว่าร้อยละ70 ในประเทศ โดยที่รัฐไม่มีคำอธิบายให้ประชาชน กระทรวงพลังงานเอง ก็มีอำนาจโดยตรงก็อยากฝากบอกว่ารัฐมนตรีรู้ดีเพราะเป็นลูกมอบ ปตท. ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เกรงใจเพื่อนๆมันมีวิธีที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีท่านต้องรีบตัดสินใจ กระทรวงการคลัง ก็มีส่วนเหมือนกันไม่ใช่แค่กับกฎหมายภาษีลาภลอยแต่กระทรวงการคลังก็มีหุ้นในโรงกลั่นทุกคนควรใช้ถูกพลังที่มีในการหาความเป็นธรรมให้กับสังคมไทย”

ทั้งนี้พรรคกล้า ขอเสนอ 3 ประเด็นแก้ไขปัญหาราคาพลังงานเร่งด่วน ว่ารัฐบาลควรจะทำอย่างไร

1. ควรมีการกำหนดเพดานการกลั่น โดยเฉพาะ ปตท. เพื่อเป็นเครื่องมือที่ป้องกันการค้ากำไรเกินควร เพราะราคาการกลั่นเป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นมา ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุนการผลิต และสถานการณ์ราคาวิกฤตพลังงาน

2. ควรเก็บภาษีลาภลอย ( windfall tax ) เพราะราคาส่วนต่างจากราคาการกลั่นน้ำมันเป็นราคาลาภลอยให้กับบริษัท ทำให้เขาได้กำไรจากส่วนต่าง จึงควรเก็บภาษีลาภลอยเพื่อนำกำไรที่เกินมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และนำมาช่วยในกองทุนน้ำมันต่อไป ซึ่งพรรคกล้าจะไม่รอให้รัฐบาลทำพรรคกล้าได้ยกร่างกฎหมายการเก็บภาษีลาภลอยไว้แล้ว และจะมีการรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

3. ควรจริงจังกับมาตรการการประหยัดการใช้พลังงาน​หยุดมาตราการช่วยเหลือแบบหว่านแห​

ผู้สื่อข่าวยังถามว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังควรอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า มีงานให้ทำ คนที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ มีอำนาจที่จะใช้และสามารถใช้ในการช่วยเหลือประชาชนได้ก็ต้องใช้ ตนไม่มีประเด็นว่าใครจะต้องอยู่หรือไม่ แต่คิดว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งขอให้ทำทุกอย่างที่ทำได้ และควรทำเพื่อช่วยประชาชน​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น