“พล.อ.ประวิตร” ถอดบทเรียน แก้ปัญหาภาคเหนือ

ถอดบทเรียนความสำเร็จแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 ภาคเหนือ“พล.อ.ประวิตร” ดึงปชช.ร่วมมือสร้างที่ทำกินสู่ อาชีพมั่นคง

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงแผนปฎิบัติการขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพและการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเผาป่า และหมอกควันก่อให้เกิดค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และจ.เชียงใหม่ว่า พื้นที่สองจังหวัดของการเกิดปัญหาหมอกควันจากการเผาป่า พบค่าPM 2.5 อยู่ในอัตราที่สูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลต่างตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ได้ดำเนินการเป็นวาระแห่งชาติ ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในแก้ไขปัญหา หลายมิติที่ต้องดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนประสบ ความสำเร็จ

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากสถิติที่ได้รับรายงาน ในพื้นที่แม่ฮ่องสอนในปี 2565 ตั้งแต่เดือนม.ค. -พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดจุดความร้อนสะสม 5,214 จุด เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีความร้อนสะสม 11,945 จุด ลดลงถึง 56.35% เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ นับเป็นปีที่มีจุดความร้อนสะสมน้อยที่สุดในรอบ 6 ปี ส่งผลดีต่อปริมาณค่า PM 2.5ที่เกินกว่ามาตรฐาน ที่มีจำนวนน้อยวันที่น้อยลง โดยปี 2565 เกิดเพียงแค่ 37 วัน ขณะที่ปี 2564 เกิด 49 วัน ผลปฎิบัติการเป็นความสำเร็จ จากการถอดบทเรียน การดำเนินงานป้องกันแก้ปัญหา ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง และนำไปสู่การปฎิบัติแผนในปี 2566ขณะที่จ.เชียงใหม่ปัญหาจุดความร้อนมีอัตราลดลงถึง 68.11% จากปี 2564 มีจำนวนจุดความร้อนทั้งหมด 8,066 จุด การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการติดตามผลของการปฎิบัติงานของหน่วยงานในจังหวัด เป็นที่น่าพอใจด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนแบบบูรณาการรวมถึงประชาชนที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวัง โดยทั้งสองจังหวัด โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่ที่มีภูมิศาสตร์บนเทือกเขาสูง และเป็นพื้นที่ป่ากว่า 88% ทำให้ประชาชนบุกรุกถางป่าเพื่อนำเป็นพื้นที่เพาะปลูก เกิดปัญหาลักลอบการเผาป่า และยังไฟป่าที่เกิดจากธรรมชาติ ทำให้พื้นที่ทำกินของชาวแม่ฮ่องสอน มีการทำเกษตรกรรม บนพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ถูกกฎหมาย จึงนำมาสู่แนวทางของรัฐบาลในการจัดสรรที่ดินทำกิน ในพื้นที่ป่าสงวนอย่างถูกต้อง

ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำมีถ่ายทอดความรู้เพื่อยกระดับอาชีพ และสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยนำงานวิจัยพืชผล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่ไปกับการจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค ในการจัดทำโครงการต่างๆ การสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึง และยังเป็นการบรรเทาปัญหาอุทุกภัยในช่วงฤดูมรสุม นอกจากนี้ยังได้นำแนวทางการบริหารการออมของชุมชนในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน ด้วยความหลายหลายชาติพันธ์ วิถีชีวิตที่มีความแตกต่าง เพื่อหยุดการบุกรุกผืนป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ถือเป็นแนวทางของพรรคในการขับเคลื่อน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จากการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมถึงภาคประชาชนในการบริหารงานที่เป็นรูปธรรม พร้อมย้ำกับทุกภาคส่วน ขอให้ทุกหน่วยงานทำเพื่อประโยชน์ประชาชน นึกถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้ทำงานอย่างโปร่งใส สุจริต และสามารถตรวจสอบได้ให้ทุกฝ่าย พร้อมมีการถอดบทเรียน นำไปสู่ภาคปฎิบัติแบบบูรณาการ ให้ยึดหลักการขยายผล พัฒนาและขจัดปัญหา จะทำให้เกิดความยั่งยืน ประชาชนมีความอยู่ดี กินดี ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อพัฒนาประเทศในระยะยาวต่อไป” พล.อ.ประวิตร ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ตามรวบถึงที่ หนุ่มปล่อย "ภาพลับ-คลิป" อดีตแฟนสาว หลังเลิกกัน ตามรังควานไม่หยุด
นทท.เริ่มเดินทางเข้าตราดลงเกาะช้าง เกาะกูดจำนวนมากแต่ยังไม่คึกคัก
"ผู้ต้องหาเยาวชน" หนีตำรวจ กระโดดลงคลองแสนแสบ จมน้ำดับสลด
สลด! หนูน้อย 6 ขวบ ลื่นตะไคร่หัวปักจมอ่างเก็บน้ำดับ แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ พุ่งกอดศพลูกด้วยความอาลัย
ไม่มีละเว้น "ทบ." สั่งขังสิบเวร ปมลงโทษทหารเกินกว่าเหตุในหน่วยลพบุรี
เปิดผลสำรวจ ความสุขในฐานะทางการเงินของชีวิตคนไทย เพิ่มขึ้น
"ป้า" น้องปูอัด ฮีโร่รถบัสไฟไหม้ สุดงง "แม่" โผล่ทวงสิทธิ รับเงินเยียวยา 1.2 ล้าน ทั้งที่ไม่เคยเลี้ยงดู
ตร.ตามจับหนุ่มใหญ่ติดแบล็คลิสต์ สวมเลขบัตรปชช.คนอื่น ทำบัตรเครดิต หนีหนี้กว่าครึ่งล้าน
"อนุทิน" สละเงินเดือน มอบให้ อส.ช่วยน้ำท่วม พร้อมขอโทษชาวบ้าน ยอมรับว่าสถานการณ์ปีนี้หนัก
"จตุพร" ประกาศตามหา "ทักษิณ" อยู่ไหน แย้มแว่วๆ ได้ข่าวมา "แพทยสภา" ส่งเรื่องชั้น 14 ให้ กสม.แล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น