นายจอห์น เติ้ง ผู้แทนไต้หวันที่เดินทางไปร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีที่สำนักงานองค์กรการค้าโลกหรือ WTO นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวานนี้กล่าวว่าการที่รัสเซียส่งกองกำลังเข้าไปสู้รบในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เกิดวิกฤติห่วงโซ่อาหาร และห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศที่ยากจน แต่หากจีนโจมตีไต้หวัน วิกฤติเศรษฐกิจและผลกระทบต่อการค้าโลกจะรุนแรงและเลวร้ายยิ่งกว่าสถานการณ์ยูเครน เนื่องจากไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิพที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่เศรษฐกิจ เนื่องอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหลายล้วนต้องใช้ชิพทั้งสิ้น ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกชิพสำหรับเทคโนโลยีระดับสูงของไต้หวันเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 1 แสน 1 หมื่น 8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ
รัฐบาลไต้หวันยังไม่มีการรายงานถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการโจมตีจากจีนเร็วๆนี้ แต่ได้ยกระดับเตือนภัยนับตั้งแต่รัสเซียโจมตียูเครน
ไต้หวันได้คว่ำบาตรรัสเซียร่วมกับชาติพันธมิตรตะวันตก และได้ร่วมยืนแสดงการสนับสนุนผุ้แทนยูเครนในที่ประชุม WTO เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา