“โฆษก ศบศ.” ปลื้ม ประชาชนแห่ใช้สิทธิมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

“โฆษก ศบศ.” ปลื้ม ประชาชนแห่ใช้สิทธิมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แนะระมัดระวังการใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวว่า หลังจากที่มีการเปิดใช้โครงการคนละครึ่งไปแล้ว 2 วัน บรรยากาศการใช้สิทธิโครงการต่างๆ เริ่มคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยตามสิทธิที่ได้รับในแต่ละโครงการ ขณะที่พ่อค่าแม่ค้าต่างบอกว่า ช่วยกระตุ้นให้ขายของได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ประกอบกิจการ ผู้ค้าขาย และประชาชนหลายฝ่ายเห็นว่า โครงการทั้ง 4 เป็นโครงการที่ดี ทำให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นในช่วงที่กำลังลำบากกัน ในส่วนของผู้ประกอบกิจการร้านค้าก็จะได้รับเงินจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการที่มาจับจ่ายใช้สอย ทำให้ธุรกิจสามารถหมุนเวียนต่อไปได้

 

โฆษก ศบศ. กล่าวต่อว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ระหว่างวันที่ 1-2 ก.ค. 64 มีผู้มาใช้สิทธิซื้อสินค้าและบริการต่างๆ แล้ว รวมกว่า 14 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายกว่า 3.6 พันล้านบาท โดยแต่ละโครงการมีการใช้จ่ายแล้ว ดังนี้ 1.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิแล้ว จำนวน 7.6 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายรวม 2,230 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 7,867 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายรวม 25 ล้านบาท  3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 6.6 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 1,308 ล้านบาท และ4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิจำนวนกว่า 1.9 แสนราย มียอดการใช้จ่ายรวม 37 ล้านบาท ทั้งนี้ การใช้สิทธิซื้อสินค้าและบริการระหว่างประชาชนผู้ใช้สิทธิและร้านค้าจะต้องเป็นการจ่ายเงินแบบ face-to-face หรือแบบพบหน้าเท่านั้น และต้องไม่มีกระบวนการใดๆ รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใดที่เป็นการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว เช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน เป็นต้น ขอให้ทั้งร้านค้าและประชาชนระมัดระวังการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หลวงพี่น้ำฝน" แจงสั่งตามลูกศิษย์ ส่งตัวให้ตร. ยืดอกรับผิด ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรง เตือน "พระปีนเสา" ปากจะพาเดือดร้อน
"ศปช." ย้ำ "ภาคใต้" ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง “ภูมิธรรม” กำชับเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
"ภรรยา-ลูกสาว" ของหมอบุญ เข้ามอบตัวกับตร. ตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกง กว่า 7.5 พันล้านบาท
“บิ๊กก้อง” สั่ง ปอศ.ส่งสำนวน ‘หมอบุญ’ ฉ้อโกงปชช.-หลอกลวงลงทุน ให้ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ
"พิชัย" นำทีมพณ.เจรจา รมต.การค้า 7 เขตเศรษฐกิจเอเปค เพิ่มเชื่อมั่นไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าอุตฯสมัยใหม่
หนุ่มเจ้าของบริษัท ผวา พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องรถยนต์เก๋ง
แนะยุบ กกต.ทิ้ง เทพไท แฉ เลือกตั้ง อบจ.เมืองคอนซื้อเสียงเปิด เผย โวย กกต.นั่งดูตาปริบๆ แนะยุบทิ้งดีกว่ามั้ย
"เชน ธนา" พาสื่อทัวร์โกดัง ยันสินค้าอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว ย้ำชัดไม่ได้โกงคู่กรณี
ตร.จ่อเรียก “เอก สายไหมฯ” สอบอีกครั้ง หลังให้การขัดแย้งพยาน
"สปป.ลาว" ออกแถลงการณ์ "เสียใจสุดซึ้ง" ปม นทท.เสียชีวิตดื่มเหล้าเถื่อน ยันเร่งนำตัวคนร้ายมาลงโทษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น