วันที่ 21 มิ.ย.65 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงมาตรการเร่งด่วนที่ช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจจากวิกฤตพลังงานที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบที่หนักหน่วงในหลายมิติ และส่งผลให้ราคาน้ำมันของตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 100 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล และบางประเทศงดส่งออกโภคภัณฑ์ที่จำเป็น ทำให้ห่วงโซ่อุปทานของโลกขาดแคลน และเงินเฟ้อสูงทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สูงถึง 8% ทำให้ค่าครองชีพของประชาชนปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น สินค้าราคาแพง และเสี่ยงที่จะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ชะงักลงในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง มีความกังวลใจ และได้สั่งการให้มีการหารือตลอดเวลา เพื่อเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ที่สามารถดำเนินการและบรรเทาความเดือดร้อน
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน ทั้งมาตรการใหม่และขยายมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ อาทิ ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ให้กับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ที่เข้าร่วมโครงการ ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. ถึงวันที่ 15 ก.ย. กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ LPG 408 บาท ต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่ กรกฎาคม ถึงกันยายน และขยายเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 100 บาทต่อรายต่อเดือน ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงกันยายน