กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักขณะนี้ กรณีประชุมเรื่องผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ล็อตที่กำลังเข้าไทยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งพบว่ามีหนึ่งในความเห็นในที่ประชุมคัดค้านการฉีดให้ด้านหน้า หรือบุคลากรทางการแพทย์ ระบุว่า “ในขณะนี้ ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงยอมรับว่า ซิโนแวคไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น”
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องนี้ ยอมรับว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง แต่ยังไม่ได้นำมาปฏิบัติ จึงยังไม่มีผล ซึ่งยังมีขั้นตอนอีกเยอะ
ล่าสุด รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุม และประชุมผ่านทางวิดีโอคอล ซึ่งเสียงในที่ประชุมส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า มี 3 กลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุ 12 – 18 ปี, กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้วัคซีน ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ และบุคลากรด่านหน้าเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เป็นวัคซีนเข็มที่ 3
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความเห็นที่เป็นที่ประเด็นดังกล่าว ไม่ได้ระบุเปิดเผยตัวตนว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นของใครในที่ประชุม
โดย หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องทางความคิดของคน ๆ นั้น หลายคนสงสัย ทั้งประชาชน สังคม รวมถึงพี่น้องบุคลากรทางการแพทย์เองก็สงสัย หลายคนถามว่าคิดได้อย่างไร เพราะทุกคนต้องฝากชีวิตไว้กับบุคคลากรทางการแพทย์ ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา คนข้างหลังจะยิ่งลำบาก “หมอตายเราก็ตาย”
“ฟังแล้วมันเจ็บปวดนะ ถ้าเป็นชาวบ้านคงจะถามว่าเอาอะไรคิด ถึงได้เสนอแบบนี้ออกมาได้ เพราะบุคลากรทางการแพทย์สำคัญมาก เพราะแต่ละคนทุ่มเทและสู้กับโควิดกันอยู่ ตอนนี้สายพันธุ์มันกลาย ก็ต้องหาวัคซีนที่มันเอาอยู่กว่านี้ แต่กลับมาบอกแบบนี้ พอหลุดออกมาสังคมก็รับไม่ได้
ตอนนี้มีอะไรดีเข้ามาก็ต้องให้พวกเขาก่อน อย่างน้อยเขาก็จะได้ดูแลเราได้ แต่กลับมาคิดแบบนี้ ไม่รู้จะพูดคำไหน
หนุ่ม กรรชัย ยังระบุด้วยว่า การประชุมครั้งนี้ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเสนอข้อนี้ขึ้นมา เพราะแค่คิดก็ไม่ควรแล้ว เป็นความคิดที่น่าละอาย