“พล.ท.นันทเดช” ทบทวนบทเรียน การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475

“พล.ท.นันทเดช” ร่วมระลึกถึงวันครบรอบ 90ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ภายใต้การนำของคณะราษฏร

วันที่ 24 มิถุนายน พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอร่วมระลึกถึงวันครบรอบ 90ปี ของการปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ภายใต้การนำของคณะราษฏร เสียหน่อยครับ มีหลายแง่มุมที่เราจะดูเรื่องนี้ แต่อาจยาวเกินไป ผมจึงขอพามาดูแค่แง่มุมเดียว ก็น่าจะพอบอกได้ว่า “ การทำปฏิวัติในครั้งนั้น ส่งผลดี หรือ ผลเสีย ต่อประเทศไทย “

ก่อนเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ ในรัชสมัยของ ร.5 และ ร.6 นั้น พระมหากษัตริย์ไทยทั้ง 2 พระองค์ ได้ทุ่มเทต่อ การพัฒนาประเทศ อย่างจริงจัง และ ต่อเนื่อง ทั้งในการสร้าง “คน และ “โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ” จนครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ ไฟฟ้า น้ำประปา โรงงานปูนซิเมนต์ ขุดคลองส่งน้ำ สร้างสพาน ถนน หนทาง ฯลฯ โดย ร.6ทรงกู้เงินจากต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย แต่ ก็สามารถส่งคืนเงินกู้ได้อย่างรวดเร็ว แค่ในปีแรกของ ร.7 เท่านั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อคณะราษฎร ปฏิวัติสำเร็จภายใต้การส่งเสริมของ ร.7 แล้ว คณะราษฏร ได้บริหารประเทศ แบบไร้ประสบการณ์ เล่นพรรคเล่นพวก จนทำลายโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ของประเทศลงเกือบทั้งหมด โดยไม่ตั้งใจ เพราะ มุ่งแต่คิดจะต้องการรักษาอำนาจไว้เท่านั้น เช่น
(1) นักเรียนทุนต่างประเทศ ของ ร.5 ละ ร.6 จำนวน 510คน ไม่มีโอกาส ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศเลย เพราะ ทุกกระทรวงเต็มไปด้วยคนของคณะราษฏร โดยอ้างเรื่องความมั่นคง แม้กระทั่ง ในพระมหาราชวังก็ส่งคนเข้าไปคุมไว้ นักเรียนทุน ส่วนหนึ่งต้องคอยหลบหนีการจับกุม เพราะเห็นต่าง ไปจากแกนนำคณะราษฏร บางคนก็ถูกจับ ไปขังคุก บางคนก็ต้องหลบอยู่เฉย ๆ การลงทุนสร้าง ทรัพยากรมนุษย์ ของ ร.5 และ ร.6 จึงล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิง คนเก่งที่สุดของประเทศ จึงไม่มีโอกาสได้เข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติ ในขณะนั้น
( ญี่ปุ่นส่งนักเรียนทุนไปเรียนเหมือนไทยในจำนวนไกล้เคียงกัน แต่พวกเขากลับมาทำงานให้ชาติ ส่วนของไทยดัน กลับมาทำปฏิวัติ คนที่ส่งตัวเองไปเรียน แบบซึ่งๆหน้า นอกจากนั้น ยังกีดกั้นคนเก่งไม่ให้เข้ามาช่วยชาติอีกด้วย )
(2) การทำลายการเรียนทางวิทยาศาสตร์ หันไปผลิตบัณทิตทางสังคมศาสตร์แทน เพื่อสร้างฐานอำนาจทางการเมือง แทนประชาชนซึ่งไม่ยอมรับ บทบาทของ คณะราษฏร นัก ทำให้ประเทศไทยต้องล้าหลังกว่าญี่ปุ่น เมื่อเวลาผ่านไปได้แค่5ปีเอง เท่านั้นเอง
(3) สร้างวิธีแก้ปัญหาทางการเมือง แบบผิดพลาดมาตลอด ด้วยการใช้ อำนาจเงิน และ ปืน (การรัฐประหาร) จนส่งผลกระทบต่อค่านิยมที่ผิดพลาดทางการเมืองมาจนถึงในปัจจุบันนี้
(4) สร้างวัฒนธรรมการเล่นพรรค เล่นพวกขึ้นมา เป็นผลทำให้คนดี มีความรู้ในระบบราชการ อยู่ไม่ได้ หรือถูกให้ออก (ร.7 ทรงตั้ง กพ.ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากแกนนำคณะราษฏร หลายคน)
(5) มีการแย่งชิงอำนาจกันตลอดเวลา 25 ปี ที่คณะราษฎรผลัดกันขึ้นมา บริหารงาน แย่งชิงกัน เสมือนไม่ได้เคยเป็นเพื่อนร่วมทำงานใหญ่กันมาก่อน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายมากในห้วงเวลานั้น จนเป็นผลทำให้เรื่องดีๆ คือ “ เป้าหมาย6ประการ “ ของคณะราษฏร ที่ประกาศว่าจะทำหลังการปฏิวัติ ก็ทำไม่สำเร็จเลย สักข้อเดียว
(6) ทำลายขบวนการยุติธรรม จนประชาชนพึ่งพาไม่ได้ เช่น การจัดตั้งศาลพิเศษ เพื่อเอาผิดฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำ, การสร้างรัฐตำรวจ, ไม่รักษาแบบธรรมเนียมที่ถูกต้อง เช่น รมว.มท.ซึ่งเป็นคนคุมตำรวจ ลงมาเป็นพยาน ให้ผู้ต้องหาคดี ร.8 เรื่องบ้า ๆ แบบนี้มีอีกแยะครับ
(7) บริหารงานบ้านเมืองจนเกิดความแตกแยกขึ้น ภายในชาติอย่างมากมาย เพียงต้องการ ลดบทบาทของ พระมหากษัตริย์ลงมาให้เท่ากับ” รัฐธรรมนูญ “ เท่านั้น

ยังมีอีกหลายสิบเรื่อง ซึ่งทางแกนนำคณะราษฎรเอง ก็ ทยอยกันออกมายอมรับในข้อผิดพลาดดังกล่าว โดยเฉพาะฝ่ายทหาร หลายคนบอกว่า “ไม่น่าจะทำเลย” จอมพล ป.ก็ออกมายอมรับเช่นกัน ส่วน อ.ปรีดีนั้นยอมรับว่า “เมื่อมีอำนาจก็ขาดประสบการณ์ “ ( สมเด็จพระนางรำไพพรรณี ได้ทรงเล่าว่า อ.ปรีดี ไปขอเข้าเฝ้าฯ กราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้าตอนนั้นยังเด็ก คิดอะไรหัวมันรุนแรงเกินไป ไม่นึกว่าจะลำบากยากเย็นถึงเพียงนี้ ถ้ารู้ยังงี้ก็ไม่ทำ…”)

การปฏิวัติ 2475 จึงควรเป็นบทเรียน สำคัญของประเทศชาติมากกว่า เพื่อจะได้กลับไปเริ่มต้น ทำงานให้บ้านเมืองกันอย่างจริง ๆ ซะที ส่วนการนำเรื่องนี้ มาปลุกระดม นั้น ไม่น่าจะมีผลอะไรในปัจจุบันนี้ เช่น เรื่องของหมุดคณะปฏิวัติ นั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ไร้สาระเข้าไปใหญ่ ก็เหมือนกับการพยายามสร้าง “รูปปั้นรัฐธรรมนูญ”ไว้ให้ประชาชนกราบไหว้กันทุกจังหวัด ในยุคของคณะราษฏร นั้นเอง เหลวไหลจริงๆครับ
พลโท นันทเดช / 24มิถุนายน 2565 (อ้างอิงจาก หนังสือ วิวัฒน์รัตนโกสินทร์ /ศูนย์หนังสือจุฬาฯ)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกนัฏ” ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด สั่งจับโรงงานสายไฟไม่ได้มาตรฐาน ยึดของกลาง 65 ล้าน
“สุชาติ”เปิดงาน“ชลบุรี พราว เอ็กโป 2024” สร้างช่องทาง SME สร้างงานปชช.
รัฐบาลเปิดตัวนวัตกรรม “ตู้ห่วงใย” บริการทางการแพทย์ พบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล เล็งขยายทั่วประเทศ
"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น