“นายกฯตู่” ห่วงเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง สั่ง”รมว.สุชาติ” เร่งช่วยเหลือลูกจ้าง-นายจ้าง ด่วน

นายกรัฐมนตรี ห่วงใย เหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ย่านสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ กำชับกระทรวงแรงงานเร่งตรวจสอบช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างอย่างเร่งด่วน ด้านรมว.แรงงาน สั่งการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพร้อมช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิความคุ้มครองตามกฎหมาย

วันนี้(27 มิ.ย.65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์บริเวณสำเพ็ง บริเวณแยกคิคูยา ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ว่า ทันที่ที่ทราบข่าวท่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกจ้าง นายจ้างและสถานประกอบกิจการ พร้อมสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างโดยเร่งด่วน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุชาติ กล่าวว่า ตนจึงสั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานส่งพนักงานตรวจความปลอดภัยเข้าไปตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ประมาณ 9 คูหา ซึ่งคาดว่าเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด โดยอาคารที่ไฟไหม้เป็นร้านค้าที่ประกอบกิจการขายอุปกรณ์/ถุงพลาสติก และขายเครื่องเล่นเด็ก จากเหตุไฟไหม้ดังกล่าวรายงานเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอก ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านขายอุปกรณ์/ถุงพลาสติก จำนวน 2 ราย เป็นชายสัญชาติกัมพูชา 1 ราย และหญิงไทย 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันจำนวน 9 ราย

ทั้งนี้ ได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างและสถานประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 11 (ตลิ่งชัน) เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งประสานหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานเข้าให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว และจะเชิญนายจ้างพร้อมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงรายงานจากสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ว่า จากการตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาลผู้ป่วยซึ่งมีอาการสำลักควันของโรงพยาบาลหัวเฉียว จำนวน 7 ราย พบว่า ลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บใช้สิทธิประกันกลุ่มอุบัติเหตุจำนวน 4 ราย ได้แก่ นายศิรสิทธิ์ ศิลารักษ์ นายสมใจ อ่อนภิรมย์ นายจิรภัทร จรรยานุภาพ และนายพรชัย นามกระโทก ใช้สิทธิประกันสังคม 1 ราย คือ นายศรัฌยพงศ์ กิตติโชควัฒนา และอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิอีก 2 ราย คือ นายกิติชาติ การุณรัตนกูล อายุ 71 ปี และนางติงงิ้ม แซ่เฮ้ง อายุ 99 ปีส่วนผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลาง ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล

 

สำหรับลูกจ้างที่เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย
– รายแรก น.ส.จิราพัชร สุ่มมาตร์ เป็นลูกจ้างของห้างผ้าใบราชวงศ์ สิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ เป็นค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนขาดรายได้จำนวน 1,260,000 บาท และบำเหน็จชราภาพกรณีตาย จำนวน 134,653 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งสิ้น 1,444,653 บาท

– รายที่สอง นาย PHEAK. DOEUM เป็นลูกจ้างสัญชาติกัมพูชาของห้างผ้าใบราชวงศ์เช่นกัน ที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ เป็นค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนขาดรายได้จำนวน 722,904 บาท บำเหน็จชราภาพกรณีตาย จำนวน 17,512 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งสิ้น 790,416 บาท ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจะได้ประสานความช่วยเหลือจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ทายาทโดยเร็วต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หิมะขาวตกห่มหิน ราว‘เห็ดหิมะ’ ในจีน
เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด
“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน
ตำรวจเชิญ “ปานเทพ” ให้ข้อมูลเพิ่ม ฐานะพยาน “คดีทนายตั้ม” รู้เบาะแสแบ่งเงิน 39 ล้าน ให้ใครบ้าง
"ตร.สภ.วังจันทร์" นำตัวผู้ต้องหาฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชี้จุดนำทองมาขาย
DSI สอบปากคำ ‘บอสพอล’ ปมคลิปเสียง ‘กฤษอนงค์’ พาดพิงหน่วยงาน อ้างจ่าย 10 ล้าน
คุมตัวผู้ต้องหาทำแผน คดีฆ่าตัดนิ้วนางทั้งสองข้างแม่ยายอัยการ
“อนุทิน” ไม่ไปช่วยหาเสียง "นายกอบจ.สุรินทร์" ชี้ขอวางตัวเป็นกลาง
นรข.สร้างผลงานเด่น จับยาบ้าริมโขง
ไลออนส์พัทยา สัตหีบ นำมัคคุเทศน์น้อย รร.มารีวิทย์ รับคณะไลออนส์สากล เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ ในโอกาสประชุมโอซีล ครั้งที่ 61 ของไลออนส์สากลทั่วโลก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น