นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้นำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่ ณ โรงงานเพ็ทโฟกัสในเครือเบทาโกร อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อวางแผนในการหาแนวทางการค้นหาผู้ติดเชื้อ โควิด – 19 เชิงรุก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 มีพนักงานในโรงงานติดเชื้อดังกล่าว โดยการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในโรงงาน
พร้อมวางแนวทางการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกที่นำไปสู่กระบวนการควบคุม รักษา และเร่งรัดให้ผู้บริหารโรงงานคัดแยกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ากักกันตัว รวมทั้งแยกออกจากครอบครัวและชุมชนด้วยการกักตัวไว้ในสถานที่ที่ทางโรงงานจัดหาไว้ รวมทั้งให้ทางโรงงานดำเนินการดูแลในเรื่องของอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นแก่ผู้ที่ต้องกักตัว ขณะที่ทางโรงงานในเครือเบทาโกร ลพบุรี ได้จัดฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับพนักงานในเครือเบทาโกร ทุกคน ซึ่งได้รับความร่วมมือจัดหาวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และคณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลพระพุทธบาทมาดำเนินการตามขั้นตอนการฉัดวัคซีน
ล่าสุด วันนี้ 6 กรกฎาคม 2564 ที่บริษัทบีฟู้ดส์ โปรดักส์อินเตอร์เนชั่นเนล ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ทีมสาธารณสุขอำเภอพัฒนานิคมและทีมสำนักงานธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจค้นหาเชิงรุกพนักงานของบริษัท เป็นครั้งที่ 3 โดยใช้ Antigen Rapid Test หลังจากที่มีการค้นหาเชิงรุกแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่แรกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 จำนวน 83 ราย พบเชื้อ 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.11 และมีการตรวจเชิงรุก ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 จำนวน 296 ราย (อยู่ระหว่างรอผลตรวจ) โดยในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าทีมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเชิงรุกในกลุ่มพนักงานโรงสดซึ่งมีจำนวนประมาณ 2,000 คนโดยจะค้นหาเชิงรุกพนักงานโรงไก่สดกะเช้าและกะบ่าย รวมทั้งโรงไก่สุกด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี ได้มีมติให้ปิดบริษัทบีฟู้ดส์ฯ เพื่อทำความสะอาด Deep cleaning และให้บริษัทฯ จัดทำแผน/มาตรการควบคุมป้องกันโรคในโรงงาน โดยเฉพาะการปรับปรุงมาตรฐานโรงอาหารและจุดเสี่ยงต่างๆในโรงงาน เมื่อดำเนินการปรับรุงแล้ว ให้ยื่นต่อคณะกรรมการควบคุมโรคพิจารณาก่อนจะเปิดดำเนินการตามปกติ เนื่องจากขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อที่เป็นพนักงานของบริษัทและที่เกี่ยวข้อง รวม 194 ราย คิดเป็น ร้อยละ 2.89 ของจำนวนพนักงานซึ่งมีประมาณ 6,700 คน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในชุมชน 679 ราย ซึ่งอำเภอ โดยฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ได้เข้าไปดูแลและแนะนำมาตรการการกักตัวในที่พักของผู้เสี่ยงสูงทั้งหมดแล้ว
สำหรับพนักงานของบริษัทที่ต้องงานเนื่องจากคำสั่งปิดบริษัทชั่วคราวนั้น ขอให้กักตัวในที่พักจนครบ 14 วัน โดยให้บริษัทนำรายชื่อของพนักงานทั้งหมดส่งให้อำเภอ เพื่อมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่ เข้าไปดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด และห้ามออกพื้นที่โดยเด็ดขาด สำหรับการเยียวยาพนักงานที่ต้องหยุดงานด้วยเหตุฉุกเฉินนั้น สำนักงานประกันสังคมจังหวัดลพบุรีจะเข้าไปประสานกับทางบริษัท ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประสังคมไว้แล้ว