วันที่ 29 มิ.ย. 65 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว TOPNEWS ถึงกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากมีหนี้สินคงค้างภาคเอกชน มากถึงกว่า 4 หมื่นล้านบาท และส่วนหนึ่งมีการพูดถึง ข้อพิจารณาเรื่องค่าโดยสารในส่วนต่อขยายไม่เกิน 59 บาทตลอดเส้นทาง ว่า ถือเป็นแนวคิดที่ดี ในการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่เปิดให้บริการฟรีมากว่า 2 ปี จึงควรให้มีการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อเป็นรายได้ในการนำไปใช้หนี้ให้กับบีทีเอส แต่มองว่า ในการแก้ปัญหาดังกล่าว เป็นการเเก้ปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องของการขยายสัมปทาน ซึ่งทางด้านผู้ว่าฯ กทม. ได้ขอระยะเวลาในการพิจารณาอีก 1 เดือน อีกทั้ง ในการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายยังไม่มีรายละเอียดว่าในการจัดเก็บจะเป็นในรูปแบบใด แต่คาดว่า จะเป็นการเก็บตามระยะทาง
ทั้งนี้ มองว่า แม้จะมีการจัดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะนำไปใช้หนี้ให้แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC ได้ เนื่องจากว่า การเก็บอัตราสูงสุดไม่เกิน 59 บาทตลอดสาย เมื่อนำมาหักค่าโดยสารตรงส่วนไข่แดง ที่มีการเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 44 บาท ที่จะต้องจ่ายให้กับบีทีเอส จะทำให้กทม. เหลือค่าโดยสารเพียง 15 บาทเท่านั้น อย่างไรตาม เรื่องค่าโดยสารดังกล่าว ต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภากทม. เพื่อพิจารณา ก่อน
ดังนั้น การแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว จะต้องพิจารณาว่า นายชัชชาติ จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร จะมีการต่ออายุสัมปทานออกไปหรือ จะมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะต้องรออีกหนึ่งเดือนเพื่อจะได้คำตอบที่ชัดเจน