"Tesla" ประกาศปลดพนักงาน 200 คน พร้อมสั่งปิดสำนัก San Mateo รับมือปัญหาเศรษฐกิจ
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Tes la ค่ายรถยนต์ชื่อดัง ประกาศข่าวช็อก สั่งปลดพนักงานทีมพัฒนาข้อมูล (data annotation) สำหรับระบบขับขี่ Autopilot 195 คน ทั้งหัวหน้างาน พนักงานทำป้ายกำกับข้อมูล และนักวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมสั่งปิดสำนักงานในเมือง San Mateo ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้พนักงานในทีมนี้เหลือเพียง 81 คน จากเดิม 276 คน
อย่างไรก็ตาม พนักงานส่วนใหญ่มีทักษะงานค่อนข้างต่ำ ค่าแรงไม่สูงมาก คาดว่าเทสลาน่าจะย้ายงานส่วนนี้ไปสำนักงานในเมือง Buffalo ซึ่งมีค่าจ้างถูกกว่า ในขณะที่แหล่งข่าวยืนยันว่า พนักงานในทีม Autopilot 195 คน ถูกเลิกจ้างเมื่อวันอังคาร (28 มิถุนายนที่ผ่านมา) จริง ๆ โดยระบุว่า “การเลิกจ้างส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม โดยจะพิจารณาตามผลงานเป็นหลัก”
ทั้งนี้ การเลิกจ้างพนักงานตามผลงาน ทำให้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายรัฐบาลกลางบางประการได้ เช่น
- การปลดพนักงานจำนวนมากที่กำหนดให้ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วันภายใต้รัฐบัญญัติว่าด้วยการแจ้งเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการปรับเปลี่ยนแรงงาน (Worker Adjustment and Retraining Notification Act) ในกรณีที่โรงงานจำเป็นต้องปิดโรงงานและการเลิกจ้างจำนวนมาก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา อดีตพนักงานของ “Tesla” 2 คน ยื่นฟ้องบริษัทในนามกลุ่มอดีตพนักงานทุกคนในสหรัฐที่ถูกเลิกจ้างในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยอ้างว่า ไม่ได้รับหนังสือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 60 วัน ตามที่กฎหมายของรัฐบาลกลางกำหนดไว้ จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของเทสลาร่วงลง 5%
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ CEO บริษัทเทสลา ได้ออกมาระบุว่า เขารู้สึกแย่มาก ที่แนวโน้มเศรษฐกิจของโลกชะลอตัว ซึ่งทางบริษัทจำเป็นต้องปรับลดพนักงานทั่วโลกลง 10% เพื่อรับมือปัญหาเศรษฐกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง