วันนี้(30 มิ.ย.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง แผนการพัฒนาโครงการฯ ในอนาคต การเชื่อมต่อกับโครงการขนส่งมวลชนอื่น ๆ และความพร้อมของขบวนรถต่าง ๆ รวมถึงแผนการเตรียมเปิดให้บริการเดินรถ
“ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ล่าสุดมีความก้าวหน้ากว่า 90% คาดเปิดให้บริการได้บางส่วนในช่วงต้นปี 66 ยันพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 66
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยการลงพื้นที่นั้น เริ่มต้นจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ที่สถานีกลันตัน (YL12) และสำรวจความคืบหน้าของสถานี พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างโครงการ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี (PK30) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างและความคืบหน้าโครงการ ก่อนร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูจากสถานีมีนบุรี (PK30) ไปยังสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ (PK28) และเดินทางกลับเข้าสู่อาคารศูนย์ซ่อมบำรุง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ขณะนี้ รถไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างไปแล้วมากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยคาดว่าในช่วงต้นปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) จะสามารถเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี ได้บางส่วน แบ่งเป็นสายสีเหลือง ช่วงสถานีภาวนา-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงมีนบุรี – ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จากนั้นคาดว่า จะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2566
ทั้งนี้ ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารนั้น ได้มีการประมาณการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย คาดว่า จะมีผู้ใช้บริการในช่วงแรก ประมาณ 190,000-200,000 คนต่อวัน ขณะที่ความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ของทั้งสองสายมีมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน
นายศักดิ์สยาม ระบุถึงอัตราค่าโดยสารว่า เบื้องต้นกำหนดไว้เริ่มต้น 14-42 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่กำหนดไว้เมื่อปี 2559 แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือพิจารณาค่าโดยใหม่ เพื่อให้อัตราค่าโดยสารสะท้อนตามสถานการณ์ความเป็นจริงมากที่สุด
ขณะเดียวกันในส่วนเส้นทางต่อขยายของสายสีชมพูเพื่อเข้าเมืองทองธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหารือร่วมกัน ยืนยันว่า ในการดำเนินการจะต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเขียว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานของ รฟม. กระทรวงคมนาคมยังเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และยังเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดรวมถึงลดฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้ประชาชนจะต้องเรียนรู้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-