“ปานเทพ” แจง 10 ข้อ ถอยหลัง “กัญชา” ไม่ได้

"ปานเทพ" โพสต์เฟซบุ๊กแจงยิบ 10 ข้อ ถอยหลังไม่ได้ เหตุ “กัญชา” ติดยาก-มีประโยชน์กว่า “เหล้าและบุหรี่” หลายเท่า

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกและกรรมาธิการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง ”10 ข้อ กัญชา กัญชง ถอยหลังไม่ได้” โดยมีเนื้อหาว่า “ตามที่มีกลุ่มภาคประชาชนบางกลุ่ม ตลอดจนแพทย์แผนปัจจุบันและเภสัชกรบางกลุ่ม แสดงความห่วงใยในมิติต่างๆต่อนโยบายกัญชา บางกรณีมีเป้าหมายเดียวกัน บางกรณีเป็นความเห็นต่าง และหลายกรณีเป็นความเข้าใจผิด จึงขอนำเสนอในประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้ ประการแรก การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดนั้น เกิดขึ้นโดยความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ในการประชุมร่วมของที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาลงมติเห็นชอบกับประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งไม่ปรากฏชื่อ “กัญชา” อยู่ในประเภทยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 อีกต่อไป เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ด้วยคะแนนอย่างท่วมท้นถึง 467 เสียง โดย “ไม่มีผู้คัดค้านเลยแม้แต่คนเดียว”

ประการที่สอง การที่คณะกรรมการควบบคุมยาเสพติดต่อมาได้พิจารณาให้กัญชาออกจากยาเสพติดเช่นกัน คงเหลือไว้แต่สารสกัดที่มี THC (สารที่ทำให้เมา)เกินกว่า ร้อยละ 0.2 เป็นยาเสพติดนั้น เพราะนอกจากจะเป็นไปตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก จากงานวิจัยจำนวนมากยังพบว่า กัญชาเสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่อย่างมากที่มีโทษต่อสุขภาพอย่างมหาศาล กลับไม่ใช่ยาเสพติด และยังสามารถหาซื้อได้โดยง่าย การกำหนดให้การควบคุมกัญชาอย่างเข้มข้นในระดับยาเสพติดจึงขัดแย้งกับความจริงอย่างสิ้นเชิง แต่ในขณะนี้กลับมีการโจมตีกัญชายิ่งกว่าเหล้าและบุหรี่เสียอีก นอกจากนั้นกัญชามีประโยชน์ไม่เพียงทางการแพทย์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วยังช่วยประชาชนดูแลสุขภาพตัวเองในฐานะเป็นสมุนไพรในครอบครัวที่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ได้แก่ช่วยการนอนหลับ เจริญอาหาร ลดการอักเสบ ลดการเกร็ง ลดอาการปวด ฯลฯ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ลดค่าใช้จ่ายได้ และจะช่วยลดภาระการผูกขาดผลประโยชน์จากบริษัทยาข้ามชาติด้วย

ประการที่สาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนได้เฝ้ารอการใช้กัญชาทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน แต่กลับปรากฏว่ายังคงมี “อคติทางการแพทย์” ที่ปฏิเสธการจ่ายยากัญชาหรือน้ำมันกัญชาให้กับคนไข้ และยังมีแพทย์และเภสัชกรบางกลุ่มที่ต่อต้านกัญชาในขณะนี้มี “ผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทยา” และบริษัทยาข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มยาแก้ปวด จึงไม่ควรปล่อยให้ประชาชนจำนวนมากเหล่านี้ถูกเลือกปฏิบัติในการถูกจับกุมนำไปติดคุกในการใช้กัญชาในครัวเรือน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดพื้นที่การเข้าถึงของประชาชนในทุกครัวเรือน เพื่อป้องกันการผูกขาดของบริษัทยาหรือกัญชาเอาไว้กับกลุ่มทุนบริษัทยา กลุ่มทุนทางการแพทย์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ประการที่สี่ การที่มีสุญญากาศทางกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ปรากฏว่าประชาชนเข้าใช้งานระบบในแอพพลิเคชั่น “ปลูกกัญ”ขององค์การอาหารและยาในเรื่องการจดแจ้งการปลูกกัญชาถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 มากกว่า 42 ล้านครั้ง และมีผู้ที่ลงทะเบียนในการจดแจ้งเพื่อการปลูกมากถึง 944,717 คน โดยในคนกลุ่มนี้มีการใช้กัญชาอยู่แล้วหรือปลูกอยู่แล้วจำนวนมาก และหากไม่มีพื้นที่สุญญากาศทางกฎหมายเลย กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่มีทางปรากฏตัวให้เห็นสภาพข้อเท็จจริงดังที่ปรากฏทั้งหมดเวลานี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ประการที่ห้า กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ดูแลสุขภาพของประชาชน และมีจุดยืนอย่างชัดเจนมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นในเรื่องนโยบายกัญชา คือ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่วนการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการนั้นไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกระทรวงสาธารณสุข หากแต่มีข้อเสนอจากภาคประชาชนกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวบางกลุ่ม ที่มีความประสงค์ที่จะต้องการให้เปิดช่องการใช้กัญชาเพื่อ “นันทนาการอย่างมีการควบคุม” ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…..ซึ่งจะต้องรับฟังเสียงสะท้อนและความต้องการของสังคมอย่างรอบด้านด้วย

ประการที่หก กระทรวงสาธารณสุขได้จำกัดการเข้าถึงกัญชาสำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีมาตั้งแต่แรกแล้ว และยังมีข้อห้ามในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร โดยผู้ประกอบการร้านอาหาร จะต้องมีการติดป้ายทั้งหน้าร้านและเมนูอาหาร โดยอาศัยใต้ประกาศของกรมอนามัยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 อีกทั้งยังมีการควบคุมทุกผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการขออนุญาตขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อ.ย.) ให้มีความปลอดภัยสูงสำหรับผู้บริโภค ดังนั้นหากยังมีผู้กระทำความผิดก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป ไม่เกี่ยวกับว่าในช่วงสุญญากาศนี้ไม่มีกฎกติกาแต่ประการใด หรือต้องการออกพระราชกำหนดแต่ประการใด

ประการที่เจ็ด แม้กระทรวงสาธารณสุขจะไม่เห็นด้วยกับการสูบกัญชา เนื่องด้วยมีสารพิษที่ได้จากการเผาไหม้ที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระบบทางเดินหายใจ แต่เนื่องจากกัญชาติดได้ยากกว่าบุหรี่ และมีโทษต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่ จึงย่อมไม่มีเหตุผลที่จะริดรอนสิทธิของประชาชนให้เข้มข้นกว่าบุหรี่ได้ นอกจากนั้นยังมีผู้ที่สูบกัญชาจำนวนมาก เป็นไปเพื่อเพิ่มคุณภาพการนอน ผ่อนคลายความเครียด หรือเพื่อเร่งการหยุดปวดหรือคลายกล้ามเนื้อ ฯลฯ โดยอาจไม่ใช่เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านนันทนาการเสมอไป ส่วนการปลูกกัญชาในบ้านและเป็นห่วงเยาวชนในบ้านนั้น ก็ไม่ต่างจากมีสิ่งอื่นในบ้านที่มีทั้งประโยชน์และโทษอยู่คู่กันเสมอ เช่น มีด ไฟแช็ก ไม่ขีดไฟ แอลกอฮอล์ อินเตอร์เน็ต ยา สมุนไพรทุกชนิด ฯลฯ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลว่าจะต้องกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกจากบ้านเพราะมีข้อห่วงใยอยู่ด้วยซึ่งไม่ต่างจากกัญชา เพราะแม้แต่บุหรี่และเหล้าซึ่งติดง่ายกว่าและมีแต่โทษต่อสุขภาพเลวร้ายยิ่งกว่ากัญชา ก็ยังสามารถนำเข้าในบ้านได้โดยไม่ต้องมีกฎหมายใดๆห้าม ดังนั้นสาระสำคัญในเรื่องนี้จึงไม่ใช่ที่ต้นกัญชา หากแต่เป็นความรู้และกติกาในครอบครัวต่างหากที่จะต้องเป็นผู้ดูแลสมาชิกในครอบครัว

 

ประการที่แปด แม้จะมีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ….ของพรรคภูมิใจไทย จะเข้ามาพิจารณาพร้อมกับ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง พ.ศ… แต่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯเห็นว่าควรใช้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ….. ของพรรคภูมิใจไทย เป็นร่างหลัก แต่ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนะที่มีความหลากหลายและรอบด้านในที่ประชุมรวมทั้งรับฟังความเห็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง พ.ศ… เองด้วย รวมทั้งยังมีการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนที่แสดงความเห็นและความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดกฎกติการเกี่ยวกับกัญชาให้มีความถูกต้องเหมาะสมกับบริบททางสังคมไทยต่อไป

ประการที่เก้า แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องมีการรายงานผลกระทบต่อสังคมในช่วงสุญญากาศอย่างรอบด้าน แต่ความจริงสังคมยังต้องมีข้อมูลอย่างถูกต้องโดยปราศจากอคติในการนำเสนอข้อมูลด้วย อคติทางการแพทย์ที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นไม่สามารถทำให้สังคมได้ความจริงได้ เพราะการหาความจริงนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านว่ามีผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่ทำให้กัญชามาอยู่บนดินนั้นได้ประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ที่ใช้กัญชาอย่างไร และมีจำนวนเท่าไหร่ สังคมจึงจะได้รับความจริงอย่างถูกต้องและเป็นธรรมในการตัดสินใจต่อไป โดยเฉพาะในเวลานี้การสร้างกระแสความหวาดกลัวแบบเหวี่ยงแหนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อ “กัญชง” รวมทั้งน้ำมันซีบีดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยปราศจากสาร THC และจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลให้กับประเทศด้วย

ประการที่สิบ การที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ….มีความหลากหลายนั้น ย่อมเป็นประโยชน์กว่าการเรียกร้องจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือจากฝ่ายรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว และมีเรื่องที่ต้องพิจารณาและชั่งน้ำหนักหลายด้าน เช่น ความเหลื่อมล้ำในธุรกิจกัญชากัญชงระหว่างรายเล็กกับรายใหญ่ การถ่วงดุลระหว่างภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกับภาคสังคม การถ่วงดุลระหว่างมาตรฐานการควบคุมกับการผูกขาดของกลุ่มทุน ฯลฯ ตัวอย่างเหล่านี้คณะกรรมาธิการฯ ขอน้อมรับความเห็นที่แตกต่างในสังคมเหล่านี้มาประมวลรอบด้านและตัดสินใจให้ได้โดยเร็วต่อไป”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น