“กรมอนามัย” เตือน กัญชาพันลำ ปล่อย PM 2.5 สูงกว่าบุหรี่ 3.5 เท่า

กรมอนามัยเตือน สิงห์อมควัน สายเขียว กัญชาพันลำ ปล่อย PM 2.5 สูงกว่าบุหรี่ 3.5 เท่า เสี่ยงหอบหืด หลอดลมอักเสบ ปอดอุดตัน ควันกัญชากระทบจิตประสาท เด็ก-ทารก ส่วนผู้ประกอบการ หากควรจัดมาตรการป้องกันเหตุรำคาญ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ

วันนี้ ( 2 ก.ค.) นางณีรนุช อาภาจรัส ผอ.กองกฎหมาย กรมอนามัย กล่าวถึงกรณี ที่มีการตรวจพบการขายกัญชามวน และการสูบในที่สาธารณะ ว่า การสูบกัญชาก่อให้เกิดกลิ่นและควันในที่สาธารณะ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ใกล้เคียง ถือเป็นเหตุรำคาญ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่นหรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบสามารถร้องเรียนเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ตรวจสอบ โดยพิจารณาจากแหล่งกำเนิดกลิ่นหรือควัน ลักษณะกลิ่น ช่วงเวลา เป็นต้น หากไม่เข้าหลักเกรฑ์ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้แจ้ง
แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ให้แนะนำให้ผู้ก่อเหตุปรับปรุงแก้ไข ข้อเท็จจริงที่ตรวจพบ มาตรการหรือวิธีการแก้ไขปรับปรุงภายในเวลาที่กำหนด หากยังไม่มีการแก้ไข ให้ออกคำสั่งทางปกครอง ตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข มาตรา 27 กรณีเหตุเกิดขึ้นในที่หรือทางสาธารณะ หรือมาตรา 28 กรณีเหตุเกิดในสถานที่เอกชน เพื่อให้ผู้ก่อเหตุปรับปรุงแก้ไข หรือระงับเหตุรำคาญ หากยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ผู้ก่อเหตุต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2.5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากปฏิบัติตามคำสั่งแล้ว ให้แจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบ และยุติเรื่องต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กล่าวว่า การนำกัญชาไปใช้ไม่เหมาะสมจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้ 1.ควันกัญชา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
2.เด็กและทารกที่สัมผัสควันกัญชามือสอง อาจได้รับผลกระทบทางจิตประสาทเช่นเดียวกับผู้สูบ
3.กระตุ้นให้เกิดอาการป่วยทางจิตในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติซึมเศร้าหรือป่วยด้วยโรคจิตเภทอยู่เดิม

นอกจากนี้ จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า กัญชาแบบพันลำ สามารถปล่อย PM2.5 เฉลี่ย 3.5 เท่าของบุหรี่แบบธรรมดา เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น ประชาชนควรตระหนัก ถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับควันกัญชามือสอง

สำหรับสถานประกอบการ ควรมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ หากเจ้าพนักงานท้องถิ่นพบการเห็นการกระทำฝ่าฝืน สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ทันที เนื่องจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ควรร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความรู้ความเข้าใจถึงโทษภัยแก่ประชาชน รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการใช้ในทางไม่เหมาะสมหรือเป็นอันตราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น