ลงตรวจสอบ ชาวบ้านร้อง ภรรยาปลอมใบมรณะบัตร อ้างสามีตาย หวังเบิกเงินแสน

ลงตรวจสอบ ชาวบ้านร้อง ภรรยาปลอมใบมรณะบัตร อ้างสามีตาย หวังเบิกเงินแสน

เมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอสันทราย พร้อมด้วยตำรวจ สภ.แม่แฝก อ.สันทราย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของนางสุพัตรา กองสถาน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย โดยมีนายจิรเดช สุริยา ผู้ใหญ่บ้านพระธาตุ ต.แม่แฝก อ.สันทราย นายประหยัด ปาวิน ผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิ์ทอง ต.แม่แฝก อ.สันทราย และนายวันชัย ไลย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย ได้ให้ข้อมูลกับปลัด อ.สันทราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่แฝก ขอให้ตรวจสอบใบมรณะบัตร ที่สมาชิกกลุ่มฌาปนกิจส่งเคราะห์หลายแห่งได้รับมาทางกลุ่มไลน์ ซึ่งสมาชิกกลุ่มรายหนึ่ง ชื่อนางบัว (นามสมมุติ) ระบุว่าสามี ของนางบัว ชื่อนายนิกร (นามสมมุติ) ได้เสียชีวิต และขอเบิกเงินฌาปนกิจส่งเคราะห์ ซึ่งจากการสังเกตเบื้องต้นใบมรณะบัตรที่ส่งมาทางไลน์กลุ่ม ภาพค่อนข้างเบลอ ทางชาวบ้านจึงส่งให้ที่ว่าการอำเภอสันทรายตรวจสอบ ว่านายนิกรฯ ได้เสียชีวิตจริงหรือไม่ ต่อมานายอำเภอสันทรายได้มอบหมายให้ นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัด อำเภอสันทราย ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรแล้วไม่พบว่ามีการแจ้งตาย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบใบมรณะบัตรฉบับดังกล่าว พบว่า คนส่งมีความตั้งใจถ่ายรูปส่งมาให้ลักษณะภาพไม่ชัดเนื่องจากต้องการปกปิดข้อความบางจุด และยังพบพิรุธหลายจุด เช่น ข้อความระบุว่า ผู้เสียเสียชีวิตที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี แต่ใบมรณะบัตรกลับระบุว่า ออกโดยสำนักทะเบียน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะระบุว่าออกโดย สำนักทะเบียนเทศบาลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทั้งยังไม่ระบุ วันที่แจ้งตาย ไม่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นใบมรณะบัตรฉบับนี้ปลอมอย่างแน่นอน

และจากข้อมูลของ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ที่ระบุว่าได้มีการเก็บเงินจากสมาชิกบางส่วนไปแล้ว และได้มีการคืนเงินให้สมาชิกกลุ่มบางส่วน ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ทำให้เกิดความเสียหายกับกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ 3 แห่ง รวมถึงสมาชิกกลุ่มฯ ที่จ่ายเงินไปแล้ว และนายนิกรฯ ที่ถูกใช้ชื่อแอบอ้างในใบมรณะบัตรปลอม สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนีเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แม่แฝก ต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบปากคำ ผู้นำชุมชน ทั้ง 3 หมู่บ้าน รวมถึงนายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง พบว่า ชื่อนายนิกร ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้เสียชีวิต เป็นสมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ 3 แห่ง ประกอบด้วย สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก, สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านศรีงาม 1 และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านศรีงาม 2 โดยระบุชื่อนางบัว และบุตร เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งหากมีการอนุมัติการเบิกจ่ายจะมียอดเงิน ประมาณ 2 แสนบาท จึงเชื่อได้ว่ามีการปลอมแปลงเพื่อหวังเงินปันผลจากกลุ่มฌาปนกิจ ทั้ง 3 แห่ง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่ามีการส่งใบมรณะบัตรปลอมฉบับนี้ ขอเบิกจ่ายเงินปันผลจากกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ กลุ่มอื่นหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

ด้านนายวันชัย ไลย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สมาคมฌาปนกิจฯว่า ได้รับใบมรณะบัตรฉบับนี้จากสมาชิกสมคมรายหนึ่ง ในกลุ่มไลน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ออกเก็บเงินจากสมาชิก ตามบ้าน บางส่วนไปแล้ว หลังจากทราบเรื่องตนได้สั่งให้ระงับเก็บเงินและได้มีการทะยอยคืนเงินให้สมาชิกไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้อนุโลม ให้สมาชิกบางส่วนที่อาจะไปทำงานอยู่ต่างถิ่น สามารถส่งเอกสารการตายของสมาชิก ทางกลุ่มไลน์เพื่อประหยัดเวลาในการดำเนินการเบิกเงินที่ทางสมาคมฯ ได้เตรียมเงินสดไว้ เนื่องจากสมาชิกอาจะมีความจำเป็นในการขอเบิกจ่ายเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในการพิธีทำบุญศพ

หลังจากนี้ได้วางมาตรการใหม่ หากสมาชิกที่อยู่ในหมู่บ้านให้นำเอกสารฉบับจริงทีมามอบให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้นส่วนสมาชิกที่อยู่ต่างถิ่นให้อนุโลมส่งเอกสารฉบับจริงทางกลุ่มไลน์ได้ แต่ต้องเป็นรูปภาพที่ชัดเจน และมีหลักฐานอื่นเช่นรูปที่จัดงานศพ ซึ่งอาจจะทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้าลงไปอีก

ขณะที่นายประหยัด ปาวิน ผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิทอง ต.แม่แฝก เปิดเผยว่า หลังจากทราบข้อมูลว่าญาติได้มีการแจ้งตายให้กับนายนิกร ขณะนั้นตนกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไปเปิดประตูให้หอประชุมในหมู่บ้านเพื่อนัดตรวจสุขภาพชาวบ้าน ขณะนั้นได้เห็นนายนิกร สวมหมวกกันน็อกขี่รถมอเตอร์ไซค์สวนมาและมุ่งหน้าไปทางถนนใหญ่ ตอนนั้นตนก็ยัง งงๆอยู่ว่าจู่ๆ คนตายมาขับรถได้ยังไง แต่ก็ไม่ทันได้สอบถามนายนิกร

ต่อมาปลัดอำเภอสันทรายได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของนางบัว และนายนิกร ที่หมู่บ้านศรีงามพัฒนาต.แม่แฝก อ.สันทราย ไม่พบตัวทั้งสองคน ซึ่งชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า ทั้งสองได้ขายบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว แต่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรบ้านหลังดังกล่าวอยู่ และทั้งสองยังเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ในหมู่บ้านอยู่ ซึ่งนายนิกร เป็นอดีตครู โดยครอบครัวนี้มีปัญหาเรื่องการเงินจึงขายบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่น และทราบข่าวมาว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่ใบมรณะบัตรฉบับนี้ออกมามีกระแสข่าวว่า นางบัว ได้ฆ่าตัวตายตามสามีไป ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็จะไปตรวจสอบจากพยานฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ว่าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่หรือไม่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น