น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ (กระติก) นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ (แซน) พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัวแซน ได้เข้ามาร้องขอความยุติธรรม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด กรณีคดีแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือเสียชีวิต หลังจากที่ สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งเลื่อนฟ้องเป็นครั้งที่ 3
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยน.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก เผยว่า เป็นครั้งแรกที่มาร้องขอความยุติธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ตนออกมาชี้แจงบ้าง ทำให้มีบางส่วนเข้าใจเหตุการณ์มากขึ้น และวันนี้ต้องการที่จะมาปกป้องสิทธิ์ตัวเองเพราะสังคมได้ติดสินพวกเราไปแล้ว ตนไม่ได้ต้องการให้ใครเห็นใจ แต่การใช้หลักฐานที่มีเพียงน้อยนิดพยายามที่จะให้เราเป็นฆาตกรให้ได้ ถ้าตนฟ้องกลับก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ วันนี้เราออกมาใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องตัวเอง ยิ่งคดีใช้ระยะเวลานานก็ยิ่งทำให้คนนอกพยายามข้องเกี่ยวกับคดี วันนี้พวกตนเลยขอใช้สิทธิ์ผู้ต้องหาในการร้องขอความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และกระบวนการยุติธรรมจะต้องรวดเร็ว เป็นธรรม // โดยวันนี้ล่วงหน้ากันมาก่อน 2 คน แต่คนอื่นจะตามมาภายหลัง เพราะติดภารกิจ เท่าที่คุยกันเบื้องต้น แต่ไม่คอนเฟิร์มว่าจะมีเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมา 4 เดือน ทำไมไม่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่แรก กระติก เผยว่า ไม่คิดว่าอัยการนนทบุรีจะเลื่อน 3 รอบ เพราะเตรียมหลักทรัพย์ไว้ประกันตัว อยากทราบสาเหตุว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไร ไม่เคยมีใครชี้แจง ทราบตามที่สื่อบอก อัยการไม่สามารถให้ข้อมูลทั้งหมดได้ และครั้งนี้ที่มาใช้สิทธิ์เพราะมันเนิ่นนานมากแล้ว แล้วเราก็โดนกระแสมาเรื่อยๆ ก็ปล่อยเขาไป เพราะเราอยู่ในชีวิตแห่งความเป็นจริง
ส่วนความรู้สึกเมื่อรู้ว่า นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน (แม่แตงโม) ได้ถอนฟ้องในส่วนของคดีฆาตกรรมทั้งหมด มันเป็นสิทธิ์ของแม่ เราก็ตั้งรับว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ซึ่งต้องคุยกับทีมทนายอีกครั้ง
สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปตรวจสอบ พวกเรามองว่า ไม่เจอควรจบ อยากเป็นจำเลย เพราะขณะนี้ประเด็นงอกมาไม่จบสิ้น ซ้ำซ้อน เรามีสิทธิ์ปฏิเสธไม่ให้ตรวจดูโทรศัพท์ตามสิทธิ์ส่วนบุคคล ที่ระบุในกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ส่วนประเด็นที่จะกล่าวโทษหรือฟ้องร้องใครหรือไม่นั้น ทนายความ เผยว่า จะฟ้องกลับผู้ฟ้องเท็จที่ดำเนินการถอนฟ้อง ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ การร้องขอความเป็นธรรมไม่ได้กล่าวโทษอัยการ แต่ผู้ต้องหามีสิทธิ์ร้องขอความเป็นธรรม ให้ทำคดีโดยรวดเร็วเที่ยงธรรม และผู้ต้องหาต้องถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว จะต้องให้โอกาสกับพวกเขาบ้าง
ทางด้าน นายวิศาพัช หรือ แซน เผยถึงการถูกพนักงานสอบสวนขอให้นำโทรศัพท์มือถือมาให้ตรวจสอบอีกครั้งว่า เบื่อที่พยายามจะค้นหาข้อมูลซ้ำซาก ส่วนตัวมองว่าถ้าไม่เจอก็คือควรจะจบ เรายืนยันว่าเราบริสุทธิ์ ในเมื่อหาความผิดจากเราไม่เจอ เพราะเราไม่ผิด จึงอยากให้ดำเนินการตามหลักการและเหตุผล ยืนยันอีกครั้งว่าอยากเป็นจำเลย ที่จะไปต่อสู้กันในศาล และเราพร้อมจะฟังการตัดสินของศาล ซึ่งตอนนี้โดนแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียวและไม่จบไม่สิ้น
ส่วนจะดำเนินคดีกลับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หรือไม่นั้น ยืนยันว่า จะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะตัวเค้าไม่ใช่เด็ก ควรจะแยกแยะได้อะไรผิดชอบชั่วดี ถ้ารู้ตัวว่าผิดขอให้ออกมาขอโทษ หรือทำอะไรที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง เพราะสิ่งที่เขาทำคือการหาทางลงไม่ได้แล้วหาเรื่องใหม่ที่พยายามปกปิดความผิดของตัวเองหรือไม่ และทุกคนก็รอจะดูหลักฐานจากคลิป เขาคงจะเก็บหลักฐานทิพย์ไปเปิดในเมืองทิพย์
นอกจากนี้ กระติก กล่าวถึงการดำเนินคดีกับชาวโซเชียลที่คอมเม้นต์รุนแรงด้วยว่า ตนเองไม่ได้ใจดีเหมือนแซน ดำเนินการไปแล้วตอนนี้ 10 ราย เราก็ไม่ได้ให้ข้อมูลกับสื่อ ไปดำเนินคดีกันเอง แต่ทุกคนบนเรือจะดำเนินคดีกับคนที่อ้างอิงถึงเราอย่างไร ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ เพราะบางส่วนยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาดำเนินคดี ต้องรอข้อมูลให้นิ่ง แต่ก็มีบางส่วนที่ดำเนินคดีไปแล้ว
ทางด้าน นายวิศาพัช ย้ำ ไม่ขอคุยกับใครแล้วเพราะตอนทำไม่เคยคิด พร้อมย้ำด้วยว่า ไม่คิดจะเอาคิดใคร แต่ตอนนี้เป็นช่วงกรรมตามทัน และไม่เคยโกรธที่ชาวโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ตนโกรธแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น และขอให้เขากลับไปทำงานก่อสร้างให้ตรงสายกับที่จบมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-