ควันหลัง รัฐสภากลับสูตรคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจากสูตรหาร 100 ที่กมธ.วิสามัญฯเสียงข้างมากเสนอกลับมาเป็นสูตรหาร 500 ตามที่หมอระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่เสนอด้วยคะแนนเอกฉันท์แบบผ่านฉลุย งานนี้ทำเอาพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณดิ้นกันเป็นปลาหมอถูกทุบหัวเพราะไม่คิดว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะมีทีเด็ดมีหมัดน็อคท้ายยกแบบนี้ ส่งผลให้ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ที่พรรคเพื่อไทยหวังจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าสูญสิ้นพังทลายลง
ความผิดหวังที่ถูกแก้เกมส์กลับสูตรคิดคำนวณส.ส.จากหาร 100 ไปเป็นหาร 500 ดูได้จากการออกมาฟาดงวงฟาดงาของฝ่ายทักษิณ ไล่ตั้งแต่นายห้างยันลูกน้อง เพราะแม้แต่ตัวทักษิณเองก็ยังไม่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลจะกล้าเล่นเกมส์กลับลำย้อนศรกลับมาสูตรเดิมแบบนี้ ต่อเมื่อโดนไม้เด็ดดอกนี้ไปทักษิณและเครือข่ายจึงต้องเปลี่ยนเกมส์สู้ใหม่ เพราะจะใช้แนวเดิมต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าคงไม่ได้แล้ว งานนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยจึงต้องคิดสูตรหนีตายหาทางออกเพื่อสู้กับสูตรหาร 500 แนวทางที่พอจะเป็นไปได้นั้น ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณมาแล้วคนที่ออกมาปูดเรื่องนี้คือ
หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาเผยไต๋แล้วว่า พรรคอาจจะต้องหาทางสู้ด้วยการตั้ง “พรรคคู่ขนาน” ใหม่ขึ้นมาอีกพรรค ใช้ชื่อว่า “พรรคครอบครัวเพื่อไทย” หรืออะไรทำนองนี้ โดยพรรคใหม่นี้จะมุ่งเน้นหาเสียงระบบบัญชีรายชื่อจากชาวบ้านเพียงอย่างเดียว ส่วนเลือกตั้งระบบเขตก็ให้พรรคพรรคแม่อย่างพรรคเพื่อไทยดำเนินการไป ขณะที่บรรดาแกนนำที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก็ให้โยกไปขึ้นกับพรรคใหม่ให้หมด ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เอาพวกแถว 2 แถว 3 จัดลำดับไป เช่นเดียวกับ “หมอเลี๊ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัยฝ่ายทักษิณก็ชูแนวคิด “พรรคพี่ พรรคน้อง” เกาหลีสไตล์ มาแก้ทางสูตรหาร 500 จัดเต็มแกนนำพรรคมาอยู่พรรคน้องให้หมด ส่วนพวกส.ส.เขตก็ให้อยู่พรรคพี่ที่เพื่อไทย
เจอกลับสูตรรอบนี้ทำเอานายใหญ่นายหญิงลูกสาวคนเล็กวุ่นวายฝุ่นตลบกันไปหมด เรื่องตั้งพรรคคู่ขนานหรือตั้งพรรคพี่พรรคน้อง พูดนะมันง่ายแต่เอาจริงมันยากไม่เหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอก ลำพังแค่การเรียงบัญชีรายชื่อจะเอากันยังไง จะมีใครอยากไปเสี่ยงกับพรรคใหม่ พวกแกนนำที่เป็นส.ส.เขต อย่าง หมอชลน่าน ส.ส.น่าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.โคราช เลขาธิการพรรค หรือบรรดารองหัวหน้าพรรคอย่าง ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ฯลฯ พวกนี้คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่เพราะเป็นส.ส.เขตอยู่แล้ว แต่พวกที่เป็นบัญชีรายชื่อมาตลอดอย่าง จาตุรนค์ ฉายแสง ,ชัยเกษม นิติสิริ , ภูมิธรรม เวชยชัย , ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง , พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, เกรียง กัลป์ตินันท์ ,กิตติรัตน์ ณ ระนอง ,ชูศักดิ์ ศิรินิล, ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ,พิชัย นริพทะพันธุ์ ฯลฯ พวกนี้จะเอากันยังไง
ไหนจะ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยอีก จะเอาอยู่ตรงไหนจะไปวางกันยังไง จะให้อยู่เป็นหัวพรรคเพื่อไทยหรือจะเอาไปเป็นหัวพรรคใหม่ที่กำลังจะตั้ง บอกได้เลยว่ายุ่งตายห่า ที่สำคัญการตั้งพรรคคู่ขนาน หรือจะเรียกว่าพรรคพี่พรรคน้องอย่างไรก็สุดแล้วแต่ อย่าลืมดูข้อกฎหมายไว้ด้วย ตั้งพรรคเป็นนอมินี ตั้งพรรคต้องดูทางหนีทีไล่ให้ดี ไม่งั้นระวังจะเข้าตำราขว้างงูไม่พ้นคอ กลายเป็นลิงแก้แหยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ล่าสุดไอเดียตั้งพรรคคู่ขนานก็โดน “น้องร้องเพื่อชาติ” อย่างศรีสุวรรณ จรรยา ที่ออกมาโพสต์เตือนกันหนักๆ “ ขอเตือน พรรคการเมืองบางพรรค ผิดหวังสูตรหาร 500 คิดจะแตกแบงค์พัน ระวังจะถูกยุบพรรค รอบ 2 ช่างสุ่มเสี่ยงเหลือเกิ๊น” งานนี้คงไม่ได้ขู่ เชื่อว่าฝ่ายต้องข้ามพรรคเพื่อไทยคงเอาจริง ตั้งพรรคแบบหัวหมอดักหน้าดักหลังเอาเปรียบคนอื่น ระวังดาบนั้นจะคืนสนอง
อีกเรื่องที่ต้องตามดูก็คือกรณี “แพแตก” หรือ “เลือดไหล” ภายในพรรคเพื่อไทย ที่ภายหลังกลับมาใช้สูตรหาร 500 โอกาสแลนด์สไลด์ของนายใหญ่แทบเป็นศูนย์ ความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายแทบไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ทักษิณโม้ไว้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ 200 ขึ้น ฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันจะได้กว่า 300 เสียง บอกเลยโม้ทั้งเพ แค่รักษาของเก่าให้ได้ 136 คน เท่าการเลือกตั้งคราวก่อนก็ว่ายากแล้วจะให้ได้ส.ส.เหมือนยุค พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน อย่าไปคิดหวัง 7 งูเห่า ที่ฝากเลี้ยงไว้อย่าง จักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี, จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ , ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ , นิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก , ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ , วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายม และ สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา ชัดเจนว่าไปแน่ ที่เหลือดูทรงแล้วคงแห่ตามไปอีกเพียบเพราะอยู่ไปก็ไร้อนาคต
ฝุ่นจางจากเรื่องนี้นับถอยหลังพรรคเพื่อไทยเลือดไหลแน่ แต่ 2 พรรคขนาดกลางอย่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคไทยสร้างไทยเตรียมสวิงรอช้อนได้เลย ส.ส.แพแตกไปไหนไม่รอดต้องมาออกทางนี้แน่นอน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล กับ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รอรับส้มหล่นแบบเต็มๆ ส.ส.เพื่อไทยหนีตายคราวนี้ 2 พรรค “หนู-หน่อย” พร้อมอ้าแขนรับแบบเต็มใจ อยู่กับเสี่ยหนูโอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างแน่ เพราะเป็นพรรคดูทางลมเก่งแถมเป็นพรรคขนาดกลาง ไม่ว่ารัฐบาลฝ่ายบิ๊กตู่หรือฝากพี่แม้วก็ต้องง้อให้มาช่วย แถมตอนนี้กระแสดีน้ำเลี้ยงเด็ด เข้าได้มีแต่วินกับวิน ขณะที่พรรคไทยสร้างไทยของเจ๊หน่อยก็ไม่ขี้เหร่ เงินหนา น้ำเลี้ยงดี ในพรรคก็มีแต่คนเก่งๆ แถมเดินสายลงพื้นที่ก่อนใครเพื่อน ถึงเป็นพรรคใหม่แต่ก็พร้อมดูแลทุกคนเป็นอย่างดี อนิจจาชะตากรรม ส.ส.เพื่อไทย เจอ 3 ป.บูรพาพยัคฆ์วางหมากแบบนี้ มีหวังต้องเป็นพรรคฝ่ายค้านอีกแหง๋ๆ 8 ปีที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรจะกินแล้ว รอบนี้ถ้าถูกเป็นฝ่ายค้านอีก 4 ปีมีหวังหมดตัวหมดตูดแน่ ระดับผู้หลักผู้ใหญ่แกนนำพรรคคงพอต่อสู้กันได้ แต่ถ้าเป็นผู้แทนธรรมดาเจอ 4 ปีรอบนี้ไปอีกดอกรับรองกรอบมีหวังต้องขายที่ขายนา เอฟเฟกต์สูตรหาร 500 มีอีกมากไว้จะมาขยายให้ฟังในโอกาสต่อไป
//////////////////////