บทเรียนธรรมนัส อนาคตเศรษฐกิจไทย

เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง   หลังกกต.รายงานผลอย่างไม่เป็นทางการเมื่อช่วงค่ำวานนี้  จากจำนวน 386 หน่วยใน 5 อำเภอทางใต้ของ จ.ลำปาง ประกอบด้วย อ.เสริมงาม อ.เกาะคา, อ.สบปราบ อ.เถิน และ อ.แม่พริก จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 161,378 คน  ผลปรากฎว่าเดชทวี ศรีวิชัย อดีตรองนายกเทศมนตรีต.เวียงนอกเเละอดีตสมาชิกอบจ.ลำปาง จากพรรคเสรีรวมไทย ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 55,638 คะแนน โดยเอาชนะ “หมอรวย” วัฒนา สิทธิวัง พรรคเศรษฐกิจไทย อดีตผู้แทนเก่าสมัยพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 3 ที่ได้ 30,451 คะแนน ไปแบบถล่มทลายด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 2.5 หมื่นคะแนนชนิดไม่เห็นฝุ่น  งานนี้ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นปลื้มสุดๆเพราะเป็นส.ส.เขตคนแรกของพรรค  หลังจากที่ก่อนหน้านี้แพ้มาทุกเขตทุกสนามที่ลงแข่ง ก่อนมาประสบความสำเร็จที่เขตนี้  ถือเป็นการปักหมุดผู้แทนระบบเขตคนแรกของพรรค แบบที่เฮกันทั้งพรรคเพราะพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยันไม่ใช่เงินซื้อเสียงแต่ใช้วิธีเดินเคาะประตูบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ตี 5 ยันมืดจนประสบผลสำเร็จ

เหตุผลหลักที่ผู้สมัครจากพรรคเสรีรวมไทยชนะการเลือกตั้ง อยากแรกต้องบอกว่าตัวพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ลงไปช่วยลูกพรรคหาเสียงแบบฝังตัวอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยการปราศรัยย่อย สลับกับการเคาะประตูบ้านทุกหลัง  ประการต่อมาคือการเกาะกระแสประชาธิปไตยเป็นจุดขายในการหาเสียง  ขณะที่ฝ่ายผู้แพ้ภายใต้การนำของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ต้องบอกว่าเป็นความพ่ายแพ่ครั้งแรกในสนามเลือกตั้งเขตภาคเหนือซึ่งเป็นฐานที่มั่นของร.อ.ธรรมนัส  ต้องบอกว่า “เสียหน้า” และ “เสียรังวัด” ไม่น้อย เพราะร.อ.ธรรมนัสก็พาแกนนำพรรคเทียวไล่เทียวขื่อไปช่วยวัฒนาอยู่บ่อยครั้ง  ทั้งนี้มีการวิเคราะห์สาเหตุความพ่ายแพ้ของพรรคผู้กอง หลักๆ ประการแรกคือ การไม่ได้เป็นรัฐบาล ตัวผู้กองเองก็ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีมีอำนาจเหมือนเก่าก่อน  ตรงนี้ก็ทำให้อำนาจบารมีความเกรงอกเกรงใจ โดยเฉพาะ “คน ปืน เงิน” หายไปมากซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการสู้ศึกเลือกตั้ง  ประการต่อมาคือพ่อนหน้านี้ที่หมอรวยชนะเลือกตั้งซ่อมรอบที่แล้ว เพราะได้กระแสนิยมในตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มาช่วยไว้แบบเต็มๆ แต่รอบนี้พอมาเป็นผู้แทนพรรคเศรษฐกิจไทยเลยไม่มีตัวช่วยดังกล่าวที่ว่า  ประการที่สามก็คือความไม่ชัดเจนว่าพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ข้างไหนกันแน่  ฝั่งอ้างประชาธิปไตยฝ่ายทักษิณหรือซีกรัฐบาลอยู่ข้างบิ๊กป้อม ตรงนี้ก็เลยสร้างความสับสนให้ชาวบ้าน พาลคิดไปว่าพรรคไม่มี “จุดยืน” ส่งผลเสียเต็มๆถึงหมอรวย

ช่องว่างที่ห่างกันสุดๆถึง 2.5 หมื่นคะแนนก็เป็นคำตอบชัดเจนอยู่แล้วคนไม่เลือกคนไม่เอาคนลำปางเขต 4 สั่งสอนร.อ.ธรรมนัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  สุภาษิตไทยเรื่อง “นกสองหัว” ก็สอนไว้แล้วว่าไม่มีใครเอาไม่มีใครอยากได้  จากนี้นโยบายการเมืองแบบรับ 2 ทาง อยู่ 2 ฝ่าย  พันธมิตรกับแม้วภักดีกับลุงป้อมก็คงจะหากินต่อไปไม่ได้แล้ว  เพราะชาวบ้านรู้มุกคนไทยรู้ทันเหยียบเรือสองแคมมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เชื่อว่าผลการเลือกตั้งเขต 4 ลำปางน่าจะเป็นบทเรียนให้ร.อ.ธรรมนัสกับพรรคเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี ทำการเมืองแบบกั๊กๆไม่มีทางรุ่ง จบเลือกตั้งซ่อมเมืองรถม้าผู้กองนัสและแกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยคงมีเรื่องให้คิดอีกมาก อนาคตจะเอาไงจะไปทางไหนดี  เบื้องต้นเฉพาะหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงในอีกสัปดาห์กว่า 19- 22 ก.ค.ศกนี้  จะยืนอยู่กับรัฐบาลหรือไปข้างฝ่ายค้าน  ล่าสุดร.อ.ธรรมนัสออกมาอัพเฟซบุ๊คตัวเอง หลังวัฒนาแพ้เลือกตั้งซ่อมแบบขาดกระจุยความว่า   “ ผมขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุนพรรคเศรษฐกิจไทยและขอแสดงความยินดีกับพรรคเสรีรวมไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวลำปาง ผมเข้าใจแล้วว่าพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงและผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันครับ” ผู้กองอัพเฟซเขียนความใน

ไม่รู้ ร.อ.ธรรมนัสตีความเรื่องความต้องการเปลี่ยนแปลงของชาวบ้านว่าอย่างไร  กลับไปสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์อยู่กับรัฐบาลต่อหรือตัดขาดจากเรือแป๊ะแล้วมาอยู่ฝ่ายทักษิณ  แต่ดูทรงจากการออกตัวของผู้กองก่อนหน้านี้ ชัดเจนว่าไปทางฝ่ายแม้ว 99.99 % แน่นอน เพราะเล่นประกาศตั้งแต่ไก่โห่ว่าศึกซักฟอกรอบนี้รัฐมนตรีทุกคนอาการหนัก ไม่เว้นแม้แต่นายกฯที่จองกฐินไว้แน่แล้ว จะมีที่รอดคือลูกพี่ป้อมคนเดียวที่ไม่โดนแน่ๆ อ้างเหตุผลมาแล้วว่าบิ๊กป้อมไม่มีกระทรวงดูแลแต่คนอื่นโดนหมด   วงในการเมืองก็รู้ๆกันอยู่  ป๋าป้อมหนึ่งหัวแต่ดูแล 2 พรรค เท็จจริงไม่รู้แต่ในวงการเขาเม้าท์กันสนั่นว่าเป็นแบบนี้  ความจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรศึกซักฟอกอีกไม่กี่วันก็คงรู้ว่าตกลงผู้กองจะยืนข้างไหนจะเลือกฝ่ายใด  เห็นว่าผู้กองจะใช้เวทีนี้ประกาศฝ่ายให้ชัด เลือกข้างนายใหญ่ให้เห็นจะๆ  ในวงการตอนนี้ลอยลมมาอีกแล้ว  ข่าวว่าซักฟอกเที่ยวนี้มีหัวจ่ายส่งน้ำเลี้ยงมาหลายร้อยล้าน เป้าหมายคือคว่ำประยุทธ์ล้มลุงตู่ เตรียมแจกกล้วยให้พรรคเล็กแบบเต็มกระเป๋า  ได้รอบนี้อาจอยู่สบายเป็นทุนไปสู้เลือกตั้งรอบหน้าได้

 อันนี้แค่เรื่องระยะสั้นเฉพาะหน้าระยะยาวร.อ.ธรรมนัสก็มีเรื่องให้ขบคิด  ตกลงจะเอาพรรคเศรษฐกิจไทยไปทางไหน  เลือกตั้งซ่อมวัฒนาก็แพ้ขาดส่วนส.ส.18 คนที่มีอยู่ในมือ  หลังวัฒนาแพ้ไปก็เหลือผู้แทนแค่ 17 คน ในจำนวนนี้เป็นปาร์ตี้ลิสต์ถึง  3 คน  ประกอบด้วย 1.บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 2.พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ 3. ยุทธนา โพธสุธน   ที่เหลือ 14 คนเป็น ส.ส.เขต  ประกอบด้วย 1.เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา 2. ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร 3. สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี 4. จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา 5. พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร 6. ปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน 7. ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี 8. จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร  9. ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา 10. ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก 11.ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก 12.สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น 13.ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ และ 14. ร.อ.ธรรมนัสเองที่เป็นส.ส.พะเยา  ถามตรงๆว่า 14 คนที่ชนะการเลือกตั้งได้เป็นส.ส.คราวที่แล้วชนะเลือกตั้งเพราะตัวเอง “ดี เด่น ดัง”  หรือเพราะกระแสพล.อ.ประยุทธ์อุ้มมาเข้าสภา  รอบหน้าถ้าอยู่พรรคผู้กองต่อไปคิดว่าจะชนะไหม  เพราะหลายคนรอบที่แล้วถึงชนะเลือกตั้งมาได้แต่ก็เฉือนอันดับ 2 ไม่มาก บางคนชนะแค่หลักร้อย หลายคนเฉือนหลักพัน

 แต่ส่วนใหญ่เข้าสภาแบบรากเลือดชนิดลุ้นกันตัวโก่ง   อาทิ  ธนะสิทธิ์ 32,630 คะแนน เขต 6 จ.อุบลราชธานี ( อันดับ 2 พิสิษฐ์ สันตพันธุ์  เพื่อไทย 32,289 คะแนน) ,  เกษม 25,982 คะแนน เขต 1 โคราช  ( วงพงศ์ โสมัจฉา อนาคตใหม่ 23,855 คะแนน ), ทัศนาพร 36,473 คะแนน เขต 8 โคราช ( พลพีร์ สุวรรณฉวี ภูมิใจไทย  34,817 คะแนน) , ภาคภูมิ 20,784 คะแนน เขต 3 จ.ตาก  (ชัยณรงค์ มะเดชะ เพื่อไทย 19,244 คะแนน) , สะถิระ  33,967 คะแนน  เขต 8 จ.ชลบุรี ( น.ต.สุรสิทธิ์ ทะวะลัย อนาคตใหม่ 25,874 คะแนน ) , พรชัย 24,781 คะแนน เขต 1 จ.พิจิตร  ( จักรพงศ์ บุบผา เสรีรวมไทย 20,375 คะแนน) ,ปัญญา 29,754 คะแนน เขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน (สมบัติ ยะสินธุ์ ประชาธิปัตย์  23,050 คะแนน) , จอมขวัญ  25,323 คะแนน  เขต 3 จ.สมุทรสาคร ( ปัญญา ชวนบุญ ชาติไทยพัฒนา 23,671 คะแนน) สมศักดิ์ 40,252 คะแนน เขต 7 จ.ขอนแก่น ( ธนิก มาสีพิทักษ์  เพื่อไทย 38,010 คะแนน เลือกตั้งซ่อม) ,ณัฏฐพล 35,446 คะแนน เขต 2 จ.สุรินทร์  (ชูชัย มุ่งเจริญพร เพื่อไทย 24,465 คะแนน) ,จีรเดช 41,755 คะแนน เขต 3 จ.พะเยา (ไพโรจน์ ตันบรรจง เพื่อไทย 30,761 คะแนน )  มีที่ผ่านฉลุยคะแนนชนะคู่แข่งเกิน 15,000 ขาดลอย  3 คนคือ ร.อ.ธรรมนัส ไผ่ ลิกค์ และ ธนัสถ์  ที่เหลือแทบต้องลุ้นหมด

โลกกว้างทางแคบร.อ.ธรรมนัสอย่าคิดว่าการเลือกตั้งรอบหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยจะไปฉิวอย่างที่เคยประกาศไว้ 25 ส.ส.ที่นั่งขึ้นไปบอกเลยยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ต่อให้ใช้สูตร 500 หารก็ใช่ว่าจะเข้าทางง่ายๆ ระบบเขตก็ต้องสู้กันหนักเพราะพรรคคู่แข่งจอคอหอยมาเพียบ  ลำพังจะหวังให้พรรคเพื่อไทยหลีกทางให้ในเขตที่ส่งผู้สมัครจะเอ๋กัน  บอกเลยอย่าไปหวังไป  ไม่มีทางที่พรรคนายห้างนายใหญ่ดูไบจะยอม ส.ส.เขตคือความหวังสูงสุดของทักษิณ  เป็นสะพานที่จะพาอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯไม่มีทางที่เสี่ยแม้วจะหลีกทางให้พรรคสมุน  ไหนจะพรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์อีก  รอบนี้บอกเลยเลือดตาแทบกระเด็น ที่ผู้กองประกาศจะทำให้พรรคยิ่งใหญ่ก้าวไกลเป็นพรรคความหวังของคนเหนือบอกเลยพูดนะมันง่าย แต่ทำจริงมันยาก รอบนี้ถ้าไม่มีลุงป้อมช่วยเข้าเนื้อเต็มๆตายแหง๋ๆ จับตาได้เลยว่าพรรคผู้กองจะไปรอดหรือไม่อย่างไร  ถ้าไปรอดก็นับว่าเก่ง แต่ถ้าไม่รอดก็ยังมีออปชั่นยุบก๊วนไปรวมกับพรรคเพื่อไทย ซุกปีกนายใหญ่ที่เคยอุปถัมน์ค้ำชูกันมา อนาคตข้างหน้าใครจะรู้  บทเรียนธรรมนัส อนาคตเศรษฐกิจไทย ตัดสินใจผิดชีวิตพังทลาย น่าจับตามองอย่างยิ่ง

///////////////////