เริ่มแล้ววันนี้ สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ ม.151 ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. รวม 4 วัน ซักฟอกรัฐมนตรี 11 คนประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ 3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 4.สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน 5.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 6.สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.รคลัง 7.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ 8.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ 9.จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 10.อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข 11.ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เที่ยวนี้มีเวลาในการอภิปราย 63 ชั่วโมง ฝ่ายค้านได้ 45 ชั่วโมง รัฐบาลได้เวลาชี้แจง 18 ชั่วโมง ก่อนลงมติวันเสาร์ที่ 23 ก.ค. สิบโมงเช้า
งานนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านวางคิวขุนพลไว้ 50 คน รอเชือดนายกฯและรมต.ร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทย 27 คน พรรคก้าวไกล 14 คน พรรคประชาชาติ 3 คน พรรคเสรีรวมไทย 2 คน พรรคเพื่อชาติ 2 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และฝ่ายค้านอิสระของมงคลกิตติ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน 24 ชั่วโมงก่อนหน้าอภิปรายวานนี้ บิ๊กตู่มีโอกาสเจอรัฐมนตรีที่รอขึ้นเขียงทั้ง 11 คน ระหว่างการประชุมครม. ที่เลื่อนมาคุยกันวันจันทร์ งานนี้บิ๊กตู่ปิดห้องคุยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน รวมทั้งแกนนำพรรค เช็คชื่อเช็คเสียงเตรียมความพร้อมในการสู้ศึก เข้าสู่สงครามครั้งสุดท้ายของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง ที่ก่อนหน้านี้รัฐนาวาเรือแป๊ะชนะศึกใหญ่ผ่านได้มหาหินมาได้แล้ว 2 ด่าน คือ อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2566 วาระแรก และ สูตรการคิดคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจาก 100 หาร มาเป็น 500 หาร รอบนี้คือด่านหินด่านที่ 3 ของพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล เป็นด่านที่ 3 ภายหลังเกิดกรณีพรรคเศรษฐกิจไทยของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหลังแพ้แล้วพาลจากกรณีเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง
ขณะที่ฝ่ายพรรคเล็กกลุ่ม 16 แม้จะเพิ่งสมหวังจากการที่บิ๊กตู่สั่งกลับลำสูตรหาร100 มาเป็นสูตรหาร 500 สมใจพรรคเล็กกันทุกคน แต่พอถึงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ อะไรๆที่ว่าแน่ๆก็อาจไม่แน่เสมอไป เพราะส.ส.พรรคเล็กหลายคนก็ต้องกินต้องอยู่ แถมอนาคตก็ต้องเตรียมตัวเตรียมเสบียงกรังไว้สู้ศึกเลือกตั้งคราวหน้า เพราะฉะนั้นที่คิดว่าพรรคเล็กกลุ่ม 16 จะเออออห่อหมกตอบแทนบุญคุณยกมือไว้วางใจให้ทั้ง 11 คน ซักฟอกเที่ยวสุดท้ายปีนี้ก็อาจจะไม่ง่าย สวิงโหวตย้ายขั้วก็ยังอาจมีทางเป็นไปได้ แม้ล่าสุดฝ่ายบิ๊กป้อมจะรู้แกว ถึงขนาดเรียกส.ส.พรรคเล็กและกลุ่ม 16 เข้าพบ ที่เซฟเฮ้าส์ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ช่วงเย็นอาทิตย์ที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา งานนี้ข่าวว่ามีการจิบน้ำชา เลี้ยงของว่างด้วยกล้วยรสหวานกันเรียบร้อย แต่ถึงเวลาหน้างานจริงๆก็ต้องลุ้นว่าทั้งหมดทุกคนจะลงเอยช่วยรัฐบาลสนับลสนุนนายกฯชูมือให้กับรัฐมนตรีทั้ง 11 คนตามที่รับปากผู้จัดการรัฐบาลอย่างลุงป้อมได้หรือไม่
แต่ที่ไม่ต้องลุ้นเพราะออกโรงเป็น “ตัวช่วย” พล.อ.ประยุทธ์มาตลอด เป็น “ยาใจคนจน” ให้กับรัฐบาลเรือแป๊ะเรื่อยมา โดยเฉพาะช่วงรัฐบาลเกิดปัญหาเสียงปริ่มน้ำขาดสภาพคล่องเรื่องส.ส. ก็ต้องออกปากชื่นชมสปิริตความใจกว้างของอนุทินและพลพรรคภูมิใจไทย นอกจากจะรักกันด้วยดีมาตลอดไม่เคยสร้างปัญหา เที่ยวนี้เสี่ยหนูก็ประกาศนั่งยันยืนยันนอนยัน ฝ่ายค้านไม่มีทางคว่ำบิ๊กตู่ล้มรัฐบาลเรือแป๊ะได้แน่นอน แถมการันตีเสียงในมือรัฐบาลมีสูงเกิน 270 คน งานนี้เสี่ยหนูคงจะเทียบจากผลอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 วาระแรกคราวที่แล้ว ที่รัฐบาลได้เสียงล้นหลาม 278 คะแนน ฝ่ายค้านได้แค่ 194 คะแนนเท่านั้น แต่มารอบนี้หลังพรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวไป 16 คน มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขส.ส.ในสภาใหม่ ล่าสุดเสียงในสภามีทั้งสิ้น 477 คน เกินกึ่งหนึ่งต้องได้ 238 คน รัฐบาลมี 253 คน ฝ่ายค้านมี 208 คน พอรวมพรรคเศรษฐกิจไทย 16 คนไป ทำให้เสียงของฝ่ายค้านมี 224 คน แต่ถ้าหักส.ส.ฝ่ายค้านที่เคยสวิงโหวตมาช่วยรัฐบาล 14 คนมาเสร็จสรรพ ซีกรัฐบาลจะมีส.ส.ในมือ 267 คน ส่วนฝ่ายค้านจะลดเหลือ 210 คนเท่านั้น ยังขาดอีก 28-29 คน ถึงจะคว่ำนายกฯล้มรัฐมนตรีแต่ละคนได้ แม้จะดูว่าไกลแต่ทำเป็นเล่นไป 10-20 เสียง แจกผลไม้สักเครือสองเครืออาจพลิกเกมส์ได้
มิหนำซ้ำอย่าลืมว่า วันสองวันนี้ “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ครูใหญ่ในสภาป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษาตัวอยู่ที่บ้าน คาดว่ากว่าจะกลับมาประจำการในสภาได้ก็ปาเข้าไปวันที่ 22 ก.ค. ที่เป็นวันสุดท้ายของการอภิปรายพอดี เพราะฝ่ายค้านจองกฐินถล่มบิ๊กตู่ 30 ชั่วโมง วางคิว 21-22 ก.ค. 2 วันสุดท้าย เพราะช่วงนี้ 19-20 ก.ค.อำนาจในสภาก็อยู่ในการควบคุมของมวยแทน เบอร์ 2 อย่างสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสายไขว้ ที่ดันเป็น “ไม้เบื้อไม้เมา” กับบิ๊กตู่พอดี ก่อนหน้านี้ก็ด่านายกฯอัดพล.อ.อนุพงษ์ เรื่องไม่มาชี้แจงกระทู้สด อัดอย่าสั่งงานแบบทหารจนเป็นข่าวหน้า 1 ขึ้นพาดหัวตัวไม้มาแล้ว ย้อนไปอดีตก็เป็นแกนนำพรรคไทยรักไทยตัวพ่อ เป็นผู้นำกลุ่ม 16 เป็นขุนพลคนสำคัญของระบอบทักษิณ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวซุบซิบบินไปหานายใหญ่หารือโทนี่อยู่บ่อยๆ ทั้งที่ดูไบและสิงคโปร์ ท่ามกลางข่าวเลือกตั้งรอบหน้าเตรียมย้ายกับบ้านเก่ารังเดิม แถมล่าสุดยังมีหลุดคลิปเสียงคล้ายสุชาติละม้ายรองประธานคนดัง พูดคุยกับชาวบ้านวิเคราะห์อนาคตการเมืองแบบเผ็ดร้อน ในทำนองสภาอยู่ไม่ยาวแน่นอน เพราะ 1. ช่วงเดือนก.ค.นายกฯมีเสียวในช่วงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่รู้จะผ่านราบรื่นหรือไม่ และ 2. สร.1 อาจยุบสภาหรือลาออกในช่วงเดือนสิงหาคมที่มีการตีความนับอายุผู้นำ 8 ปีหากศาลตัดสินไม่ผ่าน หนำซ้ำยังบอกภายหน้ายังขอฟังความเห็นประชาชนก่อนว่าจะไปพรรคไหนดี จะอยู่กับพรรคเก่าพลังประชารัฐ ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย หรือไปพรรคภูมิใจไทยดี
ในสภาข้างล่างมีร.อ.ธรรมนัสประกาศไขก๊อกพาพรรคเศรษฐกิจไทยจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้านแถมชวนพรรคเล็กกลุ่ม 16 ล้มรัฐบาลคว่ำนายกฯอีก บนบัลลังก์คนคุมเกมส์อย่างสุชาติก็ขบเหลี่ยมกับ 2 ป. “ประยุทธ์-บิ๊กป๊อก” ปันใจไปให้นายห้างใหญ่ถิ่นดูไบอีก แถมเสียงรัฐบาลรอบนี้เที่ยวนี้ก็ปริ่มน้ำ จวนเจียนจริงๆ ด่าน 3 อภปิรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรมต. 11 คน รอบนี้ต้องลุ้นกันตัวโก่ง รอวัดบารมีพล.อ.ประวิตรเอาพรรคเล็กอยู่ไหมได้ใจกลุ่ม 16 หรือป่าว หลังออกมายอมรับล่ามร.อ.ธรรมนัสไม่อยู่แล้ว รวมถึงดูบารมีเสี่ยหนู รอบนี้ “งูเห่า- งูฝาก” จะช่วยชีวิตบิ๊กตู่พารัฐบาลให้รอดสันดอนจากศึกซักฟอกปี 65 ตอน หนูกู้พยัคฆ์ ให้จบลงแบบสวยงามได้หรือไม่ ลุ้นฝีมืออนุทินเจ้าพ่อพลังใบสยายปีกทางการเมืองกันดูว่าจะพารัฐนาวาเรือแป๊ะ “รอด” หรือ “ร่วง”
//////////////////////