BBC และเอเจนซี่รายงานว่านายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ตัดสินใจประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขเมื่อในระหว่างการประชุมครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ หลังจากที่คณะกรรมการเกิดความลังเลไม่สามารถบรรลุฉันทามติ แต่เกเบรเยซุสมองว่าฝีดาษลิงได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และเริ่มสร้างความวิตกให้กับนานาประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่น 6 พันรายใน 75 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย นับเป็นการเตือนภัยด้านสาธารณสุขในระดับสูงสุด ทำให้ฝีดาษลิงกลายเป็นโรคที่สามในขณะนี้ที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกสองโรคคือโควิดและโปลิโอ
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแล้ว หลังจากมีการแพร่ระบาดใน 75 ประเทศทั่วโลก
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ WHO ประเมินว่าฝีดาษลิงมีอัตราความเสี่ยงในระยะปานกลางในภูมิภาคส่วนใหญ่และของโลก ยกเว้นทวีปยุโรปที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดกระจายไปทั่วโลกเป็นสิ่งที่เห็นอยู่อย่างชัดเจน ดังนั้นเกเบรเยซุสกล่าวว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยเร่งให้เกิดการพัฒนาวัคซีน, ช่วยให้มีการกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด, ช่วยสร้างความตื่นตัวให้ทุกประเทศลุกขึ้นหามาตรการป้องกันอย่างจริงจังและสุดท้ายเพื่อให้ประเทศยากจนได้รับความช่วยเหลือและเข้าถึงวัคซีน
ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่าการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงสามารถทำได้หากทำแบบถูกวิธีและทำในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงกลุ่มชายรักชาย, กลุ่มไบเซ็กชวลและกลุ่มบุคลากรการแพทย์บางส่วน ซึ่งกลุ่มนี้ควรถูกกำหนดให้ได้รับการฉีดวัคซีน สำหรับวัคซีนขณะนี้ก็มีแล้ว โดยสามารถใช้วัคซีนสำหรับไข้ทรพิษได้
สำหรับอาการที่เห็นได้ชัดคือมีไข้สูง, มีผื่นและตุ่มน้ำใสตามผิวหนังและร่างกายกลายอีสุกอีใส ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ปากและอวัยวะเพศ การติดเชื้อไม่ง่ายนักโดยติดจากการสัมผัสที่ใกล้ชิดหรือสารคัดหลั่งรวมทั้งการใช้สิ่งของร่วมกัน โดยฝีดาษลิงถูกพบครั้งแรกในภูมิภาคแอฟริกากลางเมื่อราวๆ 70 กว่าปีที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-