หน่วยสาธารณสุขซานฟรานซิสโกประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษในลิงที่เพิ่มสูงขึ้น และเกิดการขาดแคลนวัคซีนทั่วประเทศ โดยขณะนี้ซานฟรานซิสโกมีผู้ป่วยจากฝีดาษลิงถึง 261 ราย ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉิน จะช่วยให้หน่วยงานท้องถิ่น สามารถระดมทรัพยากรและบุคลากร เพื่อรับมือกับการระบาดได้มากขึ้น รวมถึงการเตรียมแผนฉุกเฉิน
โดยนางซูซาน ฟิลิป เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองกล่าวว่า ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองศูนย์กลางสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งฝีดาษลิงร้อยละ 30 ในประเทศเกิดขึ้นที่นี่ ดังนั้นการออกประกาศดังกล่าว จะทำให้เมืองสามารถดำเนินการต่างๆได้เร็วขึ้นเพื่อรับและแจกจ่ายทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ในนิวยอร์ก ดร.แมรี ที บาสเซตต์ กรรมาธิการสาธารณสุขแห่งรัฐ ได้ประกาศ ให้โรคฝีฝีดาษลิงเป็นภัยใกล้ตัวต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากขณะนี้ นิวยอร์กมีผู้ป่วยฝีดาษลิงกว่า 1 ใน 4 ของผู้ป่วยทั่วประเทศ ที่จำนวน 1,341 คน โดยการประกาศดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานด้านสุขภาพในท้องถิ่น สามารถเข้าถึงงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐได้
ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ CDC ระบุว่า สหรัฐฯ มีจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีผู้ป่วยยืนยันแล้วกว่า 4,900 ราย ณ วันพฤหัสบดี ซึ่งการติดเชื้อสูงสุดอยู่ในนิวยอร์ก
อย่างไรก็ดีสหรัฐฯยังคงประสบกับการแก้ปัญหาเรื่องโรคฝีดาษลิงที่เชื่องช้า ทั้งเครื่องมือการตรวจโรคและวัคซีนที่ขาดแคลน โดยขณะนี้ซานฟรานซิสโก ได้รับวัคซีนป้องกันฝีดาษที่ชื่อ จินนิออส เพียง 8,200 โดส จากที่ร้องขอไปที่ 35,000 โดส ซึ่งการขาดแคลนวัคซีนทำให้เกิดความกังวลว่า การควบคุมโรคนั้นจะเป็นไปอย่างล่าช้า และไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนในนิวยอร์กและซานฟรานซิสโก เกิดความไม่พอใจจนออกมาประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว