‘ราชกิจจาฯ’ ประกาศ ยืดเวลาต่ออายุแรงงานประมงต่างด้าวถึง 30 พ.ย.นี้

ราชกิจจาฯประกาศ ยืดเวลาต่ออายุแรงงานประมงต่างด้าวถึง 30 พ.ย.นี้

วันที่ 29 ก.ค.2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดเผยว่า ล่าสุดเว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565

โดยในเนื้อหาระบุว่า โดยที่ปัจจุบันมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงทะเล จึงสมควรอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งระยะเวลาในการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง หรือกำลังจะสิ้นสุดลง ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อดำเนินการขอรับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2565 ได้ต่อไป

สาระสำคัญระบุว่า คนต่างด้าวซึ่งได้รับการยกเว้นตามประกาศนี้ ได้แก่ ผู้ที่ต้องขอรับหนังสือคนประจำเรือ เพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเลในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีอาณาเขตติดทะเล ที่มี สัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีที่ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ และมีรอยตราประทับตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าโดยเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรก่อนวันยื่นขอรับหนังสือคนประจำเรือ และระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร คนต่างด้าว ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงและระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร และ คนต่างด้าว ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง และได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ทั้งนี้อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เพื่อดำเนินการขอรับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2565 โดยให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับใบรับคำขอหนังสือคนประจำเรือไปจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดที่เจ้าของเรื่อง หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ออกใบรับคำขอหนังสือคนประจำเรือ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับหนังสือคนประจำเรือ โดยเมื่อคนต่างด้าวได้รับหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงแล้ว ให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีระยะเวลาตามอายุหนังสือคนประจำเรือ

โดยให้คนต่างด้าวไปดำเนินการจัดทำ หรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ หรือบัตรประจำตัวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และรับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาคสาขาจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด หากในกรณีที่คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือ และระยะเวลาการอนุญาตยังไม่สิ้นสุดลง แต่ยังไม่ได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือ และคนต่างด้าวซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือ แล้ว ประสงค์ขอรับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองตรวจลงตราและ ประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือ โดยให้ระบุข้อความไว้ด้วยว่า “เป็นคนที่ได้รับอนุญาตทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล” และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วสามารถออกนอกเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 83 แห่งพระราชกำหนด การประมง พ.ศ.2558 ได้ แต่ยังต้องทำงานในเรือประมงและในบริเวณท่าเทียบเรือประมงเช่นเดิม

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 และได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือ และคนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว หากประสงค์จะอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานต่อไปอีกให้ขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรได้อีกไม่เกินระยะเวลาตามอายุหนังสือคนประจำเรือ แต่ในกรณีที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสิ้นอายุ ให้คนต่างด้าวดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารดังกล่าว เพื่อใช้ในการขอรับการตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแล้วแต่กรณี

ทั้งนี้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง หากคนต่างด้าวที่ไม่ดำเนินการตามประกาศนี้, คนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุข หรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร รวมถึงคนต่างด้าว ออกนอกเขตพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่ จะออกไปเพื่อขอรับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เคลื่อนย้ายออกนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาตโดยทางเรือหรือทางบก เพื่อไปทำงานในท้องที่ทุกแห่งที่มีท่าเรือทำการประมงทะเล ทั้งนี้ มิให้ออกนอกเขตบริเวณท่าเรือที่ทำการประมงทะเล โดยในกรณีเคลื่อนย้ายออกนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาตโดยทางบก ต้องมีหนังสือรับรองจากกรมประมงหรือหน่วยงานในสังกัด เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคหรือบริโภคในการดำรงชีพหรือยารักษาโรค เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เป็นพยานศาล ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน มีหนังสือเรียกตัวจากหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการรักษาพยาบาล โดยมีหนังสือหรือเอกสารที่ทางราชการออกให้มาแสดง แล้วแต่กรณี ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับนายจ้างใหม่ในกิจการประมงทะเล ตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงพ.ศ. 2565 โดยมีหนังสือหรือเอกสารที่ราชการออกให้มาแสดง

โดยประกาศดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาที่ลงประกาศวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ลงนามโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาข้อร้องเรียนของผู้ประกอบการประมงเพื่อขอให้เร่งรัด การออกประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรี และ กระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการผ่อนผันการต่ออายุใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว ที่ยังไม่ได้รับการลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำได้รับผลกระทบต่อการออกเรือประมง โดย นายพีระพันธุ์ รับข้อร้องเรียนว่าจะมีการตรวจสอบและเร่งดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวประมง กระทั่งล่าสุดเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ออกเผยแพร่ประกาศดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเดินหน้าตามกระบวนการการขออนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น