หลังจากที่ นก-สินจัย เปล่งพานิช ปรากฏตัวบนเวทีงานกรุงเทพกลางแปลง ที่มีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง “รักแห่งสยาม” โดยภายในงานมีเหล่านักแสดงนำและผู้กำกับอย่าง มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, มาริโอ้ เมาเร่อ, พิช- วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล มาร่วมพูดคุยถึงภาพยนตร์แห่งความทรงจำของใครหลายๆคน ซึ่งถูกจับตามองเนื่องจาก นกสินจัย มีจุดยืนทางการเมืองที่ตรงข้ามกันกับผู้ที่มาร่วมงานกรุงเทพกลางแปลง
ล่าสุด มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับหนังที่เคยออกมาพูดถึงดาราที่ไม่ออกมาด่ารัฐบาลว่าเป็นสลิ่มโง่ๆ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ก่อนจะจัดเสวนาคุยกันว่าควรชวนกันมาทั้งหมดไหม เอาจริงๆไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการปรากฏตัวของสินจัย ซึ่งเธอมีสิทธิ์จะได้รับเกียรติมาร่วมระลึกถึงผลงานที่เธอทุ่มเทชิ้นนี้ และเมื่อพี่นกแสดงความจำนงว่าจะมาร่วมงาน เรายินดีจะโอบกอดไมตรีจิตในครั้งนี้
มันเป็นงานที่ประหลาดมาก ด้านซ้ายเราคือน้องๆกลุ่มไปม็อบ บางคนมาด้วยกำไล EM ที่ข้อเท้า ขวามือเราคือนักแสดงหญิงผู้ยึดมั่นในความเชื่อของตน และไม่รู้ว่าเธอต้องรวบรวมความกล้าแค่ไหนที่จะเดินเข้ามาในวงของผู้เห็นต่าง ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ขณะที่พูดคุยมองไปข้างๆก็จะประสานสายตากับพี่หัวเกรียนที่เหมือนจะซึมซับทุกประโยคที่เราพูดเก็บไว้ในใจ จนวูบหนึ่งอยากได้พี่เขาเป็นแฟนเพราะอยากมีคนใส่ใจทุกคำพูดอย่างนี้มานานแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าถ้าเกิดปลุกระดมอะไรขึ้นมาก็น่าจะถูกชาร์จก็ตาม
มะเดี่ยว เปิดใจ “นก สินจัย” ร่วมเวทีกรุงเทพกลางแปลงขณะอยู่กลางระหว่างนักแสดงผู้ยึดมั่นในความเชื่อของตนกับน้องที่ใส่กำไลอีเอ็มแต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เชื่ออาจเป็นจุดที่เปิดใจยอมรับความแตกต่างกันได้
ข่าวที่น่าสนใจ
ไม่ว่าใครจะมาด้วยวิถีใดก็ตามแต่ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เราเองกลับรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ประเมินวุฒิภาวะของน้องๆคลาดเคลื่อนไป กลัวเขาจะโห่ใส่พี่เขา หรือกลัวพี่เขาจะลุกขึ้นมาทวงถามเพลงสรรเสริญ ระแวงว่าสันติบาลจะรวบคนจัดงานไปกรณีไปพูดอะไรไม่ถูกใจ ละนี่ก็ถึงขั้นเตรียมเพลงของขวัญเอย ต้นไม้เอย เผื่อมีใครขอขึ้นมา เอาจริงๆเหมือนประสาทแดกเพราะไม่ได้สัมผัสการอยู่ท่ามกลางมนุษย์มากมายขนาดนี้มานานแล้ว
เราว่ามันผ่านไปด้วยดีเพราะในพื้นที่นั้นมันมีพลังบวกเต็มไปหมด มันมาจากพื้นที่ ผู้คนที่มาร่วมสร้างบรรยากาศเหล่านั้นขึ้น บางคนไม่ได้จะดูหนังหรอกแค่มาแสดงความรักต่อภาพยนตร์ที่เขารัก มาเจอเพื่อนเก่า มาฟังเพลง มาอะไรก็ตามแต่ พลังที่ทุกคนส่งมามันส่งถึงใจกันจริงๆนะ เราอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ตอนนี้ แต่อย่างน้อยเรามาอยู่ในภาวะของความอิ่มเอม มันอาจจะเปิดใจเราให้รับความแตกต่างมากขึ้น และการยอมรับในความแตกต่างความเข้าใจชีวิตอื่น ก็คือหัวใจหนึ่งของ #รักแห่งสยาม
ก่อนกลับบีบมือพี่นกแน่นอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรามองตากันอยู่เนิ่นนาน โดยไม่พูดอะไร เรารู้ว่าพี่นกเห็นว่าเราเคยผ่านอะไรมา เช่นเดียวกับเราที่เข้าใจว่าแกต้องเจอกับอะไรอยู่ตอนนี้ เราไม่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแกได้ เพราะแกก็เหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพหลายคน ที่เราคิดจะอยู่ร่วมกันให้ได้มากกว่าจะทำลายล้างกัน
สุดท้ายแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนจะมีจุดเปลี่ยน เมื่อเวลาและประสบการณ์พาเราไปเจอจุดที่เหมาะที่ควร อย่าเชื่อว่าคนเราจะไม่มีวันเปลี่ยนได้ แม้กระทั่งตัวของเราเอง ถึงวันที่คุณไม่เหมือนเดิม คุณต้องการให้โลกนี้ปฏิบัติยังไงกับคุณ น่าคิดไหมครับ? ยังรักทุกคนเหมือนเดิมครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง