สำหรับการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในช่วงนี้ ยังคงต้องกักตัวที่บ้านพัก ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว และจะทำการกักตัวไปจนถึงวันที่ 19 ก ค. แต่ทุกวันจะมีการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ติดตามงานอย่างต่อเนื่อง
โดยวันนี้นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวขอบคุณในพิธีรับมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า จากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะเป็นผู้รับมอบวัคซีนจากเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565
และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว ครั้งที่ 2/2564
ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรี ได้นัดประชุมวงเล็ก ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับทีมเศรษฐกิจ เช่น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เพื่อออกมาตรการเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์และประกาศเคอร์ฟิว ตามประกาศฉบับที่ 27
ส่วนมาตรการเยียวยาประชาชนที่จะออกมาเบื้องต้นอาจมีการแจกเงินเยียวยาให้ผู้ที่ขาดรายได้ รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่อยู่ใน 10 จังหวัด หรือจะช่วยเหลือเป็นวงกว้างทั่วประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ จัดทำข้อเสนอทั้งหมดมาให้พิจารณาในวันนี้ จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบในวันที่ 13 ก.ค.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มาตรการเยียวยาที่จะออกมาในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้เงินจากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดมาตรการที่จะออกมาอีกครั้ง