CAAT เรียกนักบินนกแอร์ แจงเหตุอพยพล่าช้า 3 ส.ค.นี้

CAAT สอบสาเหตุ/ปฏิบัติการกรณีเครื่องบินนกแอร์ไถลออกนอกทางวิ่ง เตรียมเชิญนักบิน และนักบินผู้ช่วย 2 ราย เข้าชี้แจง หลังสังคมตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการอพยพ ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ พร้อมระบุชุดปฏิบัติการกู้อากาศยานเข้าถึงพื้นที่แล้ว คาดเปิดใช้งานได้ตามปกติ 4 ส.ค. 65

ความคืบหน้าการเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุของเครื่องบินสายการบินนกแอร์ที่ประสบเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion) ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) และการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

ข่าวที่น่าสนใจ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ติดตามการดำเนินงานของสายการบินและสนามบิน มีความคืบหน้า ดังนี้

1. การเชิญเจ้าหน้าที่สายการบินนกแอร์ นักบิน และ ทชร. เข้าชี้แจง
CAAT ได้เชิญผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์และ ทชร. เข้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกำชับให้สายการบินเร่งแก้ไขปัญหาหน้างานให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุดและให้สายการบินสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเข้ามาชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้งกับ CAAT

ประเด็นด้านการอพยพผู้โดยสาร รวมทั้งการปฏิบัติของภาคพื้น (สนามบิน ดับเพลิง ฯลฯ) ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Air Operator Certificate Requirements) พ.ศ. 2564 ซึ่งกำหนดให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องมีการดำเนินการตามบทที่ 1 ข้อ 13.1 Evaluation of Passenger Evacuation Capability/Emergency Evacuation Demonstrations ที่ระบุว่า การอพยพผู้โดยสารทั้งหมดออกจากอากาศยานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องสามารถทำได้ภายในระยะเวลา 90 วินาที ทั้งนี้ การอพยพผู้โดยสารตามมาตรฐานสากลในกรณีฉุกเฉินให้ลุล่วงภายในเวลา 90 วินาทีนี้ ถูกกำหนดขึ้นใช้กับอากาศยานพลเรือนทุกแบบ

ในกรณีเกิดเหตุการตัดสินใจของนักบินในการสั่งการอพยพผู้โดยสารจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะนั้น เช่น หากมีไฟไหม้หรือกลุ่มควัน หรือเหตุที่พิจารณาแล้วว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตไม่มีทางอื่นนอกจากอพยพโดยทันที (Emergency Evacuation)
แต่หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้การควบคุมของนักบินและหลังเกิดเหตุไม่ปรากฏแนวโน้มที่จะเกิดภาวะฉุกเฉินหรืออันตรายต่อชีวิต อีกทั้งมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น เวลากลางคืน หน่วยกู้ภัยภาคพื้นยังมาไม่ถึง หรือบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย นักบินสามารถตัดสินใจพิจารณาถึงความปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสารเป็นหลัก โดยอาจตัดสินใจไม่อพยพผู้โดยสารโดยทันที

ทั้งนี้ เบื้องต้นสายการบินระบุว่านักบินได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการอพยพในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Evacuation Checklist) รวมทั้งได้ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นของสนามบินขอความช่วยเหลือและลำเลียงผู้โดยสารจากที่เกิดเหตุไปยังอาคารผู้โดยสารอย่างปลอดภัย แต่ระยะเวลาในการอพยพผู้โดยสาร ที่เกิดเป็นประเด็นคำถามทางสังคมถึงความล่าช้านั้น CAAT มีกำหนดการเชิญนักบินผู้ควบคุมอากาศยานและนักบินผู้ช่วยของเครื่องบินลำที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย เข้ามาสัมภาษณ์ในวันพุธที่ 3 สิงหาคมนี้

ด้านการปฏิบัติงานของสนามบินและหน่วยดับเพลิงของสนามบิน CAAT มีข้อกำหนดฉบับที่ 14 ว่าด้วยมาตรฐานสนามบิน หมวด 6 บริการของสนามบิน ส่วนที่ 1 การวางแผนฉุกเฉินของสนามบิน ข้อ 982 ระบุถึงการปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย ณ จุดใด ๆ บนทางวิ่งที่ใช้งานภายใต้สภาพทัศนวิสัยและสภาพพื้นผิวที่เหมาะสม เวลาในการตอบสนองต้องไม่เกินสองนาที ซึ่งจากการสอบถามข้อเท็จจริงจากสายการบินและสนามบิน พบว่าเป็นไปตามข้อกำหนดข้างต้น คือ ในวันที่เกิดเหตุ เวลา 21.10 น. หอบังคับการบินแจ้งหน่วยดับเพลิง ทชร. กรณีการเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง และเมื่อเวลา 21.11 น. รถกู้ภัยและรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ แต่ในการอพยพผู้โดยสารออกจากตัวเครื่องบิน CAAT ได้รับรายงานว่าปกติแล้ว ทชร. จะใช้สะพานเทียบอากาศยาน (Aerobridge) ในการขึ้นลงของผู้โดยสาร จึงมีข้อจำกัดเรื่องรถขนส่งผู้โดยสาร

2. การเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย สายการบินเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและประสานงานในการกู้และเคลื่อนย้ายอากาศยาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างการประเมินการเคลื่อนย้ายอากาศยานให้ปลอดภัยที่สุด โดยมีขั้นตอนดำเนินการทั้งเรื่องการสอบสวนและให้เตรียมการเพื่อเคลื่อนย้ายอากาศยาน โดยทั้งสายการบินและท่าอากาศยานได้ประสานกันอย่างต่อเนื่องและมีการจัดทำแผนตามสภาพหน้างาน และจะต้องมีการปรับปรุงทางวิ่งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานต่อไป โดยสนามบินได้มีการแจ้งให้กับ CAAT ทราบอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นระยะเวลา การปิดท่าอากาศยานยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิมคือ 3 สิงหาคม 2565

3. การดูแลผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ CAAT ได้สอบถามกับสายการบินทราบว่าสายการบินได้พยายามดำเนินการตามขั้นตอนแต่เนื่องจากเที่ยวบินเป็นเวลากลางคืนทำให้ไม่สามารถหาอาหารว่างได้ และน้ำดื่มมีจำกัดจึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง กรณีเรื่องสัมภาระนั้นหน่วยงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และได้อนุญาตให้นำสัมภาระออกมาได้ ทางสายการบินนกแอร์แจ้งว่าได้เริ่มนำสัมภาระของผู้โดยสารออกจากเครื่องบินตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ก.ค. และได้ประสานให้ผู้โดยสารมารับสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้ว (Checked baggage) ส่วนสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน (Carry-on baggage) มีผู้โดยสารมาแสดงตนขอรับคืนแล้วบางส่วน สำหรับสัมภาระที่ยังไม่มีผู้มาแสดงตนขอรับคืน ยังฝากอยู่ที่ ทชร.

สำหรับเที่ยวบินขากลับจากเชียงรายมายังกรุงเทพ ฯ สายการบินนกแอร์ได้มีการจัดที่พักให้กับผู้โดยสารขากลับและทำการชดเชยผู้โดยสารตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 และได้จัดรถเพื่อนำผู้โดยสารมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต่อไป

กรณีที่สายการบินได้ออกข่าวไปในเบื้องต้นซึ่งมีประเด็นที่ไม่ถูกต้องนั้น สายการบินจะปรับปรุงโดยให้มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะออกข่าวนั้นโดยสายการบินออกข่าวใหม่และได้ขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบรวมถึงได้ออกมาตรการชดเชยตามที่เป็นข่าว

4. ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการปิด ทชร. สำหรับผู้ที่มีบัตรโดยสารอยู่แล้วจากการจองเที่ยวบินเข้าและออกท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งยังอยู่ระหว่างปิดดำเนินการชั่วคราว สายการบินทุกสายที่มีเที่ยวบินเข้าและออกจาก ทชร. ได้ปรับเส้นทางเป็นการเดินทางด้วยเที่ยวบินที่เข้าและออกจากเชียงใหม่แทนแล้ว โดยจัดการรับส่งผู้โดยสารจากเชียงรายมายังเชียงใหม่เพื่อทำการเดินทาง หรือจัดรถจากเชียงใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังเชียงราย และบางสายการบินยังได้จัดเที่ยวบินพิเศษจากตารางการบินเดิมไปยังเชียงใหม่ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเชียงรายด้วย และจากการตรวจสอบสายการบิน ด้านการดูแลตามสิทธิผู้โดยสาร พบว่าทุกสายการบินที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553

5. ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้มีบัตรโดยสารอยู่เดิมและซื้อบัตรโดยสารใหม่ในช่วงใกล้เวลาการเดินทาง เข้าและออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ อาจประสบปัญหาบัตรโดยสารราคาสูง อย่างไรก็ตาม CAAT มีกลไกการตรวจสอบราคาขายบัตรโดยสารของสายการบินอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการขายเกินเพดานราคาที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านสิทธิผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนมาได้ที่ https://caat.or.th/complaint/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮือฮา "ชาวชัยนาท" พบพระพุทธรูป หนัก 15 กก. ลอยตามน้ำ อัญเชิญตั้งบูชาที่ศาลา พร้อมแห่สองเลขเด็ด
ตร.เร่งล่า "แหม่มรัสเซีย" แทงเพื่อนรวมชาติปางตาย คาดปมหึงห่วง
ระทึกกลางดึก บ้านไม้ 2 ชั้น พังถล่มทับเจ้าของบ้าน ซ.เจริญกรุง 99 จนท.ระดมช่วยปลอดภัย
กรมอุตุฯ เตือน ฉบับ 12 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนถล่มหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
2 หนุ่มก่อสร้าง ขี่ จยย. แหกโค้ง ชนราวเหล็กกั้นถนนสาหัส
เปิดการอบรมก่อนสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกประจำปีการศึกษา 2567
คอหวยแตกตื่น!!แห่ร่วมพิธีและส่องเลขหางประทัดพิธีอัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้นประดิษฐาน ณ วัดคงคาเลียบเมืองคอน
"เจ๊อ้อย" เปิดใจหลังให้ปากคำเป็นวันที่ 4 พร้อมเอาผิด "ทนายตั้ม" ยืนยันคำเดิม เงิน 71 ล้าน ไม่ได้ให้โดยเสน่หา
"สุสานเนอร์วาน่า" แจงชัดไร้ส่วนเกี่ยวข้อง พิธีซื้อที่ดินสะเดาะเคราะห์ต่อชีวิตของ "หมอดูฮวงจุ้ย"
“อนุทิน” มอง “ปทุมธานี” เป็นเมืองต้นแบบกระจายอำนาจ ยินดี “บิ๊กแจ๊ส” นั่งนายกฯอบจ.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น