ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่บุกป่าไล่ตะครุบจับ 3 กัมพูชา แอบลอบตัดไม้เข้ามาในเขตแดนไทย

ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่บุกป่าไล่ตะครุบจับ 3 กัมพูชาแอบลอบตัดไม้เข้ามาในเขตแดนไทย 1 กม. เผยหากรอดไปได้มีรายได้ครั้งละประมาณ 10,000 บาท

วันที่ 4 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยพิทักษ์ป่าทะนำเจ็น ศูนย์พิทักษ์ที่ 3 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสาธิต พันธุมาศ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เปิดเผยว่า จากการที่ ชุด Smart Patrol เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา กองร้อย อส. ที่ 19 อำเภอภูสิงห์ หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ทหารพราน ร้อย 2601 ตชด.224 ได้ออกลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อป้องกันการรักษาตัดไม้มีค่า ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 เวลา 14.00 น. ชุดลาดตระเวนได้มาถึงบริเวณป่าพลาญไผ่ ทางทิศตะวันออกช่องมังจา ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าฝั่งขวาห้วยศาลา” ท้องที่ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนไทย – กัมพูชา ประมาณ 1 กิโลเมตร พบว่ามีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน กำลังแบกไม้อยู่ด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า ชายฉกรรจ์ 3 คน ได้พากันแตกฮือวิ่งหนี แต่เนื่องจากว่า ทั้ง 3 คน แบกไม้เอาไว้ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ ตรวจยึดไม้ชิงชัน จำนวน 1 แผ่น ปริมาตร 0.04 ลูกบาศก์เมตร อุปกรณ์การกระทำผิด ขวาน จำนวน 1 เล่ม ตลับเมตร จำนวน 3 อัน หัวไฟคาดศีรษะ จำนวน 3 อัน ไม้พะยูง จำนวน 11 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.11 ลูกบาศก์เมตร เลื่อยลันดา จำนวน 1 ปื้น เสียม จำนวน 1 เล่ม ตะไบ จำนวน 1 อัน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชายทั้ง 3 คน เป็นชาวกัมพูชา โดยให้การว่า พวกตนแอบลักลอบเข้ามาตัดไม้ในเขตแดนไทย แบ่งการทำงานเป็นทีม มีทีมตัด ทีมแบกไม้ พวกตนเข้ามา 5 คน แต่ว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมได้ 3 คน หนีรอดไปได้ 2 คน ซึ่งไม้ทั้งหมดที่พวกตนแบกมา จะเอาไปขายที่ประเทศกัมพูชาโดยจะมีนายทุนจากประเทศเวียดนามมาซื้อถึงบ้านจะได้ราคา กก.ละ 320 – 350 บาท ซึ่งหากพวกตนแบกไม้หนีรอดไปได้จะมีรายได้ครั้งละประมาณ 10,000 บาท

ต่อมา จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พร้อมด้วย นายสุเทพ เกตุเวชสุริยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 พ.อ.นิสิต สมานมิตร ผบ.ฉก.3 ได้มาตรวจสอบผลการจับกุมชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนในครั้งนี้ โดยได้ชมเชยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 มาตรา 48 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 53,55(5) พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เพจดังแฉอีก พรรคส้มแอร์ไลน์ ดูงานจีน “เจี๊ยบ อมรัตน์” โผล่ไปด้วย โดนชาวเน็ตสวน เที่ยวฟรีภาษีประชาชน
เสี่ยใจบุญ มอบทุนพัฒนาบ้านเกิดกว่า 3 ล้านบาท แจกทุนนักเรียนทั้งโรงเรียน คนละ 5,000 บาท
ตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการดูแลความปลอดภัย และป้องกันการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สร้างความชื่อมั่น รับไฮซีซั่น
"ทนายอาคม" รับทำคดีให้เฉพาะ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม ชี้เจ้าตัวไม่รู้สำนึก ดื้อดึงสู้หัวชนฝา
ประเด็นร้อน ! ข้อถกเถียงเรื่องภาษีบุหรี่ไฟฟ้า คุ้มค่ากับสุขภาพของคนไทยหรือไม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น