วันจันทร์ (8 ส.ค.) คณะกรรมการสุขภาพมณฑลไหหลำ เผยว่าซานย่าตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผล 801 ราย และผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 409 ราย ระหว่างวันที่ 1-7 ส.ค. ที่ผ่านมา
ซานย่าได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวติดค้างในเมืองกว่า 80,000 คน เช่น การคืนเงินค่าเดินทาง รวมถึงมีคำสั่งให้โรงแรมมอบส่วนลดร้อยละ 50 สำหรับแขกกลุ่มนี้
เหล่าบุคลากรการแพทย์ปฏิบัติงานทั้งวันทั้งคืนบริเวณจุดทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วซานย่า โดยเหวยตี๋เสีย หัวหน้าพยาบาลประจำโรงพยาบาลประชาชนซานย่า กล่าวว่าจุดทดสอบที่โรงพยาบาลฯ เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บตัวอย่างจากผู้คนราว 4,000 คนต่อวัน ขณะกระบวนการคัดกรองโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถทราบผลภายใน 6-8 ชั่วโมง
จี้ตวนหรง เลขานุการรัฐบาลเมืองซานย่า ระบุว่ามีการกำหนดโรงแรม 33 แห่ง ที่มีห้องพักกว่า 6,900 ห้อง เป็นสถานที่กักตัวสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดหลักและผู้สัมผัสใกล้ชิดรอง
ทั้งนี้ จี้เสริมว่าซานย่ากำหนดให้พื้นที่ 168 แห่ง เป็นพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 ระดับสูง และ 67 แห่ง เป็นพื้นที่เสี่ยงระดับปานกลาง เมื่อวันเสาร์ (6 ส.ค.) และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อรับรองการจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นแก่ผู้อาศัยอยู่ภายใต้การจัดการแบบปิด
ด้านทีมงานจากกลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของคณะรัฐมนตรีจีนได้เดินทางถึงไหหลำแล้ว และจะทำงานร่วมกับหน่วยงานเทศบาลเมืองและมณฑล เพื่อควบคุมการกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่น
ด้านรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่ารัฐบาลมณฑลไหหลำได้ขยายการล็อคดาวน์เพิ่มไปยังเมืองไหโขว่ เมืองหลวงของไหหลำ และอีก 2 เมืองเล็กคือเล่อตงและเฉิงไม่ เพิ่มเติมจากเมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศสำคัญ และเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดที่ไหหลำ ส่งให้มีการล็อคดาวน์อย่างน้อย 8 เมือง กระทบประชากรราว 7 ล้านคน ซึ่งไม่สามารถเดินทางเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ยกเว้นธุรกิจจำเป็นเช่นตรวจโควิด, หาซื้ออาหารหรือเกี่ยวกับเรื่องงาน โดยระยะเวลาล็อคดาวน์แต่ละเมืองแตกต่างกันไป