“โควิด-19” เป็นโรคติดต่ออันตราย ยังไม่ใช่โรคประจำถิ่น

หมอเฉลิมชัย เผยสถานการณ์แพร่ระบาด "โควิด-19" ตอนนี้ ยังไม่ถือเป็นโรคประจำถิ่น และไม่นับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เป็นโรคติดต่ออันตรายที่ประชาชนยังต้องระวังต่อเนื่อง ไม่ติดเชื้อดีที่สุด

“โควิด-19” โอไมครอน BA.5 โอมิครอน BA.2.75 โอมิครอน BA.4 หมอเฉลิมชัย เผยสถานการณ์แพร่ระบาดในปัจจุบันยังรุนแรงต่อเนื่อง ไม่นับเป็นโรคประจำถิ่น และไม่ถือเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แต่เป็นโรคติดต่ออันตราย ไม่ติดเชื้อดีที่สุด ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมธิการสาธารณสุขวุฒิสภา อัปเดตสถานการณ์ “โควิด-19” เผย ปัจจุบันการระบาดในประเทศไทยเข้าสู่ระลอกที่ 4 ซึ่งเกิดจากไวรัสโอมิครอนตั้งแต่มกราคม 2565 เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสถานการณ์โควิดระลอกที่ 3 ซึ่งเกิดจากไวรัสเดลต้า เมื่อช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 จะพบชัดเจนว่า สถานการณ์ของโควิดในปัจจุบัน ติดเชื้อง่าย มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากว่าเดิมถึง 2 เท่า คือ ติดเชื้อจากเดลต้าประมาณ 2,000,000 คน ส่วนโอมิครอนมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4,000,000 รายแล้ว

 

 

 

โควิด-19, โควิด, โอมิครอน, โรคประจำถิ่น, โรคติดต่อเฝ้าระวัง, โรคติดต่ออันตราย,​หมอเฉลิมชัย, เดลต้า

 

 

 

ส่วนเรื่องความรุนแรง เชื้อไวรัสเดลต้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน ในขณะที่โอมิครอนเสียชีวิตประมาณ 10,000 คน จึงสามารถกล่าวได้ว่า ไวรัสโอมิครอนติดเชื้อง่าย แพร่ระบาดกว้างขวางมากกว่า แต่อาการรุนแรงน้อยกว่าไวรัสเดลต้า อย่างไรก็ตาม เราพบว่าจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ มีจำนวนมากที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 2-3 เดือนหลังจากผ่านจุดสูงสุดมานั้น ไม่ได้ลดลงตามที่เราคาดหวังไว้ และกลับมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

 

 

 

โควิด-19, โควิด, โอมิครอน, โรคประจำถิ่น, โรคติดต่อเฝ้าระวัง, โรคติดต่ออันตราย,​หมอเฉลิมชัย, เดลต้า

เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลในสัปดาห์ที่ 10-16 กรกฎาคม 2565 กับ 31 กรกฎาคม-6 สิงหาคม 2565 พบว่า ผู้ติดเชื้อรวมทั้ง PCR และ ATK เพิ่มขึ้น 58.8% จากติดเชื้อวันละ 22,542 ราย เป็น 35,800 ราย โดยแยกเป็นผู้ติดเชื้อจาก ATK เพิ่มขึ้น 63.9% จากวันละ 20,547 คน เป็น 33,679 คน ส่วนผู้ติดเชื้อจาก PCR เพิ่มขึ้นเพียง 6.3% จาก 1,995 ราย เป็น 2,121 ราย

  • ผู้ป่วยหนักมีอาการปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 16.4%
  • ผู้ป่วยหนักมาก ใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่ม 36.5%
  • ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 20.8%

นอกจากนั้น ยังพบว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2565 เราฉีดไปได้เพียง 44.9% หรือ 31.2 ล้านโดส ยังห่างจากเป้าหมายที่จะเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ได้ 60% หรือ 42 ล้านโดส อยู่อีกราว 10 ล้านโดส ซึ่งด้วยอัตราการฉีดวัคซีนในขณะนี้ จะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน จึงจะสามารถทำตามเป้าหมายได้ และในขณะนี้ก็เริ่มมีการส่งสัญญาณสาธารณะอีกครั้ง คาดว่า 1 ตุลาคม 2565 อาจจะปรับโควิดจากโรคติดต่ออันตรายไปเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด

 

 

 

โควิด-19, โควิด, โอมิครอน, โรคประจำถิ่น, โรคติดต่อเฝ้าระวัง, โรคติดต่ออันตราย,​หมอเฉลิมชัย, เดลต้า

 

 

 

กล่าวโดยสรุป โควิดของไทย ณ ปัจจุบัน ยังถือว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย ยังไม่นับเป็นเป็นโรคประจำถิ่น และยังไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ส่วนโควิดในอนาคต จะถือว่าเป็นโรคติดต่ออยู่ในกลุ่มใด ไม่ใช่เกิดจากการทำนายหรือการคาดการณ์ หากแต่เกิดจากข้อมูลข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์จริง ซึ่งเมื่อเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น

 

 

 

ข้อมูล : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น