“หมอยงค์”ชี้แจง สูตรฉีดสลับ ซิโนแวค-แอสตราฯ ยันฉีดไปแล้วมากกว่า 1,200 คน ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง

“หมอยงค์”แจงยิบสูตรฉีดวัคซีนสลับ ซิโนแวค-แอสตรา ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานสู้สายพันธุ์เดลต้า ยันฉีดไปแล้วมากกว่า 1,200 คน ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง

ที่กระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงค์ ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงถึงการฉีดวัคซีนผสมเข็มแรกซิโนแวค เข็มที่สองฉีดแอสตราเซเนกาว่า ไวรัสมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ซึ่งลดลงทุกตัวของวัคซีนที่ผลิตจากสายพันธุ์อู่ฮั่น แต่วัคซีนบางตัวยังพอมีภูมิคุ้มกันสูงกว่า จึงพอป้องกันได้ เช่นเดียวกับวัคซีนแอสตราซเนกา ที่เดิมเราคิดว่าฉีดเข็มเดียวก็เพียงพอป้องกันไวรัสายพันธุ์อู่ฮั่นได้ แต่พอเจอสายพันธุ์เดลต้า วัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มเดียวก็ไม่สามารถป้องกันได้ แต่กว่าจะรอครบ 2 เข็ม ก็ต้องใช้เวลา 10 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น ถึงจะป้องกันได้ จึงเป็นที่มาของการหาจุดสมดุลว่า ทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนคนไทยมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นเร็วที่สุด เหมาะสมที่สุด ในขณะที่ไวรัสเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไปมาก

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงค์ กล่าวอีกว่า เรารู้ว่าถ้าฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ภูมิต้านสูงไม่พอป้องกันสายพันธุ์เดลต้า แต่แอสตราเข็มเดียวก็ไม่เพียงพอ กว่าจะรอ 2 เข็ม ก็ช้าไป จึงเป็นที่มาของการศึกษาว่า ถ้าเราฉีดวัคซีนเชื้อตายก่อนแล้วตามด้วยวัคซีนไวรัลเวคเตอร์ ผลปรากฎว่าการกระตุ้นสูงกว่าที่เราคาดคิดไว้และเพิ่มขึ้นเร็ว ถึงแม้ไม่สูงเท่ากับการให้แอสตราเซเนกา 2 เข็ม แต่ก็ได้ภูมิต้านทานที่สูงใกล้เคียง และใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ แทนที่จะรอไป 12 สัปดาห์ โอกาสในการป้องกันไวรัสที่กลายพันธุ์จึงมีมากกว่าซิโนแวค 2 เข็ม ฉะนั้นในสถานการณ์การระบาดของโรคที่เป็นไปอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เรารอเวลาถึง 12 สัปดาห์ไม่ได้ การฉีดสลับ 2 เข็มดังกล่าว สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์สูงทีเดียว น่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับประเทศไทยที่มีการระบาดของโรค ประกอบการที่ไทยมีวัคซีนเพียง 2 ชนิด จึงเหมาะสมสำหรับประเทศ ณ เวลานี้ แต่หากอนาคตมีวัคซีนที่ดีกว่า พัฒนาดีกว่า สลับเข็มที่ดีกว่า เราค่อยหาวิธีการที่ดีกว่า หรือในอนาคตถ้าไวรัสกลายพันธุ์ไปมากกว่านี้ อาจจะมีวัคซีนจำเพาะเจาะจงกับสายพันธุ์ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ เวลาทุกวันของเรามีค่าในการต่อสู้กับโรคร้าย ตนขอสนับสนุนให้เห็นว่า ข้อมูลทางวิชาการที่ศึกษามาจะเป็นประโยชน์ในการใช้จริง

ส่วนความปลอดภัยเมื่อมีการสลับวัคซีนนั้น ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงค์ ชี้แจงว่า จากการศึกษาเบื้องต้นที่ออกมา มีการฉีดวัคซีนสลับในประเทศไทยมากกว่า 1,200 คน และที่ฉีดเยอะคือ โรงพยาบาลจุฬา ซึ่งใน 1,200 คนนี้ มีการบันทึกข้อมูลลงในหมอพร้อม ไม่มีใครมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง จึงเป็นเครื่องยืนยันการให้วัคซีนสองยี่ห้อสลับกันมีความปลอดกภัยในชีวิตจริง โดยเราจะนำผลการศึกษาเรื่องความปลอดภัยมานำเสนออีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้ ว่าความปลอดภัยที่เราฉีดและเฝ้าคนไข้ ให้บันทึกทุกวัน ข้อมูลความปลอดภัยเป็นอย่างไร ขอให้ผู้ปฏิบัติสบายใจได้ เราไม่ได้ฉีดสลับเป็นคนแรก นอกจากนี้มีการศึกษาในอังกฤษ วัคซีน mRNA สลับกับไวรัลเวคเตอร์ โดยทีมของมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ใช้ไฟเซอร์สลับกับแอสตราเซเนกาการศึกษานี้ได้สิ้นสุดไปแล้ว บุคคลสำคัญของยุโรปมีการฉีดเข็มแรกแอสตราเซเนกา เข็มที่สองเปนไฟเซอร์ แม้ในบ้านเราบอกว่าจะไม่ควรสลับวัคซีน แต่ก็มีการสลับวัคซีนในชีวิตจริง โดยข้อมูลการฉีด 1200 คน ถือว่ามากพอสมควร และไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรง คนติดว่าขอ้มูลนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่คณะกรรมการนำมาพิจารณา ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการนั้น

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงค์ ยังกล่าวถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสว่าเป็นเรื่องปกติของไวรัส RNA และเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ขณะนี้การระบาดในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าสายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่ระบาดเป็นสายพันธุ์อินเดียเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะในกรุงเทพมาหนคร และมีแนวโน้มสายพันธุ์นี้จะระบาดทั่วประเทศ ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้หรือเบต้า เป็นสายพันธุ์ที่หลีกหนี หลีกเลี่ยงวัคซีนได้ดีที่สุด ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนต่ำมาก แต่สายพันธุ์นี้มีประสิทธิภาพการแพร่กระจายของตัวเองได้น้อยกว่า จึงขึ้นมาเบียดสายพันธุ์เดลต้าไม่ได้ และสายพันธุ์เดลต้าจะมีปริมาณไวรัสที่อยู่ในลำคอผู้ป่วยสูงมาก แพร่กระจายได้ง่าย โอกาสติดต่อคนสู่คน ง่ายกว่าเมื่อก่อน จึงขอให้ประชาชนตระะหนัก สายพันธุ์เดลต้าทำให้การหาไทม์ไลน์ยากขึ้นทุกที เพราะติดต่อง่ายมาก ทุกคนจะต้องปฏิบัติตัวเองอย่างเคร่งครัด ต้องมีระเบียบวินัย ใส่หน้ากาก 100% กำหนดระยะห่าง และสุขอนามัยจะต้องเต็ม100% ป้องกันดีว่าวัคซีนที่ฉีดอยู่ในตอนนี้ ส่วนโอกาสที่จะติด 2 สายพันธุ์ในคนๆเดียว หลักการของไวรัสมีความเป็นไปได้ ถ้าในชุมชนนั้นมีไวรัส 2 ตัวระบาดอยู่ แต่ที่เรากลัวคือ ถ้าไวรัส 2 สายพันธุ์เกิดแบ่งตัว โดยใน 1 เซลเดียวกันอาจจะมีการแลกชิ้นส่วน และกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยพบรายงานไวรัส1ตัว ประกอบไปด้วยไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบคือ ผู้ป่วย 1 คน เจอไวรัส 2 ตัว

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงค์ ย้ำอีกว่า วัคซีนจะเป็นทางช่วยอีกทางหนึ่งในการที่จะหยุดวิฤตนี้ได้ ดังนั้นไม่ควรมีคำถามว่า ควรหรือไม่ควรฉีดวัคซีน สำหรับการฉีดวัคซีนในเด็กยังต้องรออีกระยะพอสมควร เพราะเรารู้ว่าโรคนี้ถ้าติดเชื้อในเด็กความรุนแรงของเด็กน้อยมาก โอกาสที่จะทำให้เด็กเสียชีวิต น้อยกว่าผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุมาก วัคซีนที่จะใช้ในเด็กได้ต้องคำนึงถึงความปลอดะภยที่สูงกว่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามในอนาคตวัคซีนของเด็กจะต้องมี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เล็ก ฝันเด่น มอบสิ่งของที่มีสารไอโอดีนให้ ทรภ.1 นำสู่น้อง ๆ สู่พื้นที่ภาคเหนือ
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดงานวันเบาหวานโลก “World Diabetes Day 2024”
เลือกตั้ง นายก ทต. ท่าพริกเนินทราย คึกคัก
รถบรรทุก 6 ล้อ ไหลลงเนินเขา เบรกไม่อยู่ พุ่งชนร้านค้า โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
“ปานเทพ” แนะ “หมอบุญ” กลับไทยยังไม่สาย ลั่นหากคิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็มาแสดงความบริสุทธิ์
"แสวง" เลขากกต.รับ ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกนายกอบจ.อุดรธานี บางตา ย้ำรู้ผลคะแนนไม่เกิน 3 ทุ่มวันนี้
สดุดีทหารกล้า สละชีวิตเหตุคนร้ายซุ่มยิงทหารพราน ในพื้นที่ยะลา
"ชูศักดิ์" ชี้สัญญาณดี ศาลฯไม่รับคำร้องคดี "ทักษิณ-พท." ล้มล้างการปกครอง พร้อมแจงคดีครอบงำต่อกกต.
"ปานเทพ" ชี้ "ทนายตั้ม" ดิ้นยาก เปลี่ยนคดีฉ้อโกงเป็นแพ่ง ท้าแน่จริงรับสารภาพดีกว่า
"ทนายสายหยุด" จ่อถอนตัวทำคดี "ทนายตั้ม" ปมโกงเงิน "เจ๊อ้อย" ลั่นเหมือนถูกหลอก 

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น