เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำโขง อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หลังได้รับแจ้งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติให้เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง และติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงจากฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 13-14 สิงหาคม 2565 จะมีปริมาณน้ำไหล่ผ่านเขื่อนไซยะบุลี สปป.ลาว ในอัตราประมาณ 9,000 – 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
จากฝนตกหนักน้ำโขงมีระดับสูงขึ้นจะส่งผลให้ด้านท้ายเขื่อนไซยะบุรีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง จังหวัดเลย ประกอบด้วย อำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 เมตร อย่างฉับพลัน ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 14-18 สิงหาคม 2565 และขอย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ 24 ชั่วโมง หรือหากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้แจ้งขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้นกับหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรืออำเภอ ในพื้นที่ หรือแจ้งจังหวัด (สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย) โทรศัพท์/โทรสาร หมายเลย 0-4281-1871
นายทองปักษ์ หม่องคำหมื่น ผู้อำนวยการส่วนอุทกวิทยาที่ 3 เชียงคาน เปิดเยว่า หลังจากเขื่อนไซยะบุรีสร้างเสร็จและเปิดใช้งานมาช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่สถานอุทกวิทยาเชียงคานสูงสุด ดังนี้ ปี 2562 ระดับน้ำสูง 9.5 เมตร ปี 2563 ระดับน้ำโขง 10.23 เมตร ปี 2564 ระดับน้ำ 10.54 เมตร และปี 2565 ระดับน้ำ 11.45 เมตร ซึ่งก่อนที่จะมีเขื่อนไซยะบุรี ระดับน้ำโขงในห้วงเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2558-2561 เฉลี่ยสูงถึง 13-15 เมตร โดยกองอำนวยการออกประกาศเตือนมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคม 2565 และครั้งที่ 2 วันที่ 14-18 สิงหาคม 2565 คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 1-1.50 เมตร ซึ่งตำกว่าระดับตลิ่งประมาณ 5 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร โดยระดับตลิ่งแม่น้ำโขงอำเภอเชียงคานสูง 18 เมตร ระยะอันตราย 16 เมตร ระยะ Safety 2 เมตร
ส่วนด้านการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี คณะกรรมการบริหารลุ่มน้ำโขง (MRC) จะมีการประสานงานมายังกองอำนวยการน้ำแห่งชาติของไทยก่อนทุกครั้ง พร้อมคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนท้ายเขื่อนทั้ง สปป.ลาว และ ไทย เป็นอย่างดี โดยได้มีการประสานงานระดับพื้นที่มายังนายอำเภอเชียงคาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา ลักษณะการระบายน้ำของเขื่อนไวยะบุรีเป็นการระบายน้ำปกติ ยืนยันสถานการณ์ยังปกติไม่น่าเป็นห่วง ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงแต่อย่างใด และเมื่อมีสถานการณ์ฝนตกหนักใน สปป.ลาว โดยเขื่อนไซยะบุรียืนยันจะบริหารจัดการน้ำในเขื่อนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดน้อยที่สุดต่อประชาชนท้ายเขื่อนอย่างแน่นอน.
ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย