“รัฐบาล” เดินหน้าพัฒนาการเกษตรพื้นที่ EEC

รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาการเกษตรพื้นที่ EEC เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพียงพอที่จะก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2575 ทั้งนี้ แนวทางในการพัฒนา มิได้จำกัดอยู่ที่ภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการเท่านั้น แต่รวมถึงภาคการเกษตรด้วย ซึ่งครม.ได้เห็นชอบ แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่อีอีซี (พ.ศ.2566-2570) เป้าหมายยกระดับภาคการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีให้ผลการผลิตสูงขึ้น เข้าถึงตลาดสินค้ามูลค่าสูง ยกระดับรายได้เกษตรกรให้เทียบเท่าภาคอุตสาหกรรมและบริการ พัฒนาพื้นที่กลุ่มคลัสตอร์ทางการเกษตรที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาด ประกอบด้วย 5 คลัสเตอร์ คือ ผลไม้ประมง เกษตรมูลค่าสูง พืชสมุนไพร และพืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยคาดหวังอัตราการขยายตัวมูลค่าผลผลติมวลรวมภาคเกษตรของอีอีซี ร้อยละ 3.5 ต่อปี และอัตราการขยายตัวรายได้เกษตรต่อแรงงานเกษตรของอีอีซี ร้อยละ 6.5 ต่อปี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรสอดรับนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้ประเทศสู่เป็นศูนย์กลางการผลิตพืชสมุนไพร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ลงนามความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พัฒนาพืชสมุนไพรครบวงจรในเขตปฏิรูปที่ดิน มีกฎหมายรองรับ สร้างวิสาหกิจชุมชนที่มีความพร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างเครือข่ายงานวิจัย พัฒนาสินค้าสมุนไพรให้ตรงตามความต้องการตลาด ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาสารสกัดและผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล ว่านนางคำและขิง และเพิ่มมูลค่าเปลือกทุเรียนมังคุดและเงาะ โดยวิธีสกัดสารออกฤทธิ์สำคัญสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

นางสาวรัชดา กล่าวต่อถึงกลุ่มสินค้าผลไม้ ทางสกพอ. และบริษัท ปตท. ได้ร่วมกันดำเนินโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก Eastern Fruit Corridor : EFC) ซึ่งคือโครงการลงทุนตลาดกลางผลไม้และดิจิตอลแพลตฟอร์ม ครอบคลุมการบริหารจัดการกระบวนการผลิต การทำแพลตฟอร์ม e-commerce และ e- auction การรับรองมาตรฐานเพื่อรองรับการซื้อขายกับต่างประเทศ พร้อมทั้งระบบการขนส่งสินค้าโดยกำหนดพื้นที่ตั้งโรงงานซึ่งมีขนาดห้องเย็นจุผลไม้ได้ถึง 10,000 ตันอยู่บริเวณใกล้แหล่งปลูกทุเรียน เพื่อเป็นกลไกในการรักษาสมดุลย์ด้านราคาของตลาดผลไม้ (ทุเรียน) อย่างยังยืนคาด ว่าจะเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคมปีนี้ 2565

“รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะพัฒนาภาคการเกษตรให้มีรายได้เทียบเท่าภาคอุตสาหกรรมและบริการ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการให้พื้นที่ EEC เป็นต้นแบบการพัฒนาด้านการเกษตรสมัยใหม่ของประเทศ ตามกรอบแนวคิดตลาดนาการผลิต และการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหารากเหง้าการเกษตร โดยสนับสนุนการพัฒนาคลัสเตอร์สินค้าสาคัญ ได้แก่ ผลไม้ ประมง พืชสาหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ พืชสมุนไพร และสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ต่อไป” นางสาว รัชดา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สารวัตรชาติ นายตำรวจน้ำดี เจ้าของแหวนอัศวิน นำคณะจัดอบรม หนี-ซ่อน-สู้ เอาตัวรอดเมื่อเผชิญเหตุร้าย
"แพนเค้ก" ร่วมชมการแสดง​โขนมรดกชาติ ได้รับรองจาก UNESCO ฉลองครบ 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ไม่รอด จนท.สกัดจับ "พ่วง 18 ล้อ" ดัดเเปลงเสริมถังน้ำมัน "ลอบขนน้ำมันเถื่อน" จากประเทศเพื่อนบ้าน
ระทึก ม้าเหล็กขยี้รถเก๋ง โค้ชฟุตบอลอะคาเดมี่รอดปาฏิหาริย์
"พิพัฒน์" ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก "ระบบบำนาญสวีเดน" สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน-รองรับสังคมสูงอายุ
คลังเลือดสำรองไม่พอ! "สภากาชาดไทย" เชิญชวนบริจาคเลือด ช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศ
ตร.จ่อเชิญ ‘เจ๊อ้อย’ สอบปากคำเพิ่ม ปมตั้ง ‘ทนายตั้ม’ จัดการมรดก
บอร์ดกลั่นกรอง เคาะโผนายพล ชงก.ตร.พรุ่งนี้
กอ.รมน.พาเปิดประวัติ ชมเครื่องปั้นดินเผา ณ ศูนย์ศิลปาชีพ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นราธิวาส ร่วมต่อยอดช่างฝีมือไทย
"จ๊ะจ๋า แดนดาว" ชมความงดงาม "เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์" ทึ่งมีประวัติยาวนาน เป็นมรดกล้ำค่าคู่แผ่นดินไทยและโลก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น