ตามที่ปรากฏว่ามีเหตุคนร้ายรูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดียในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว กรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. จึงได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ดำเนินการวางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับนัก ท่องเที่ยว และเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโดยเร็ว โดยให้มีการจัดประชุม และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้แก่ เมืองพัทยา สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา และผู้ประกอบการ เพื่อแสวงหาความร่วมมือ
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.ธวัช ปิ่นประยงค์ ผบก.ทท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล ผกก.2 บก.ทท.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งรัดการจับกุมกรณีสาวประเภท 2 ที่ก่อเหตุรูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย โดยประสานการปฏิบัติกับ สภ.เมืองพัทยา และได้ร่วมกันสืบสวนจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ กดดันทุกวิถีทาง เป็นผลให้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นายเฟรม (นามสมมุติ) สาวประเภท 2 ที่หลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ไปหลบซ่อนตัวในชุมชนแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ติดต่อเพื่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เนื่องจากไม่สามารถทนแรงกดดันได้ ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่เคยรูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดียอีกหลายราย จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. เปิดเผยว่าแก๊งรูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอันมาก ซึ่งงานของตำรวจท่องเที่ยวต้องเร่งรัด และแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการท่องเที่ยว โดยพื้นที่เมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ดังนั้นนอกจากการจับกุมแล้ว สิ่งที่ส่งผลดีคือ การป้องกันเพื่อไม่ให้มีเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยว และขอให้ตำรวจท่องเที่ยวทุกนาย ช่วยกันป้องกันเหตุที่จะเกิดแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นจุดเสี่ยง หรือจุดล่อแหลมในการก่ออาชญากรรม เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวของประเทศไทย และขอประชาสัมพันธ์สำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชน หากต้องการความช่วยเหลือ พบเหตุที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว สามารถแจ้งได้ทางสายด่วน 1155 และ แอพพลิ เคชั่น Police Tourist I lert u
อนันต์ กิ่งสร นันทัช กิ่งสร ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี