วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการส่งคลิปภาพในกลุ่มไลน์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขณะคนร้ายเป็นชาย สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีแดงและใช้ยืดสีดำคาดแดงสวมศีรษะเป็น “ไอ้โม่งแดง” ยกกระสอบสีขาว 3 ถุงใส่รถจักรยานยนต์พ่วงท้าย ที่หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะก่อเหตุอย่างชัดเจน ทั้งจังหวะยกกระสอบของเก่าขึ้นรถ และขณะขับรถจักรยานยนต์พ่วงท้ายออกจากหน้าร้านเหมือนดูลาดเลา ก่อนที่จะย้อนกลับมาลากจูงพ่วงท้ายที่บรรทุกของเก่าออกไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ช่วงเวลา 15.35-15.39 น.
ทั้งนี้ หลังจากการการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก เนื่องจากก่อเหตุในช่วงกลางวันแสกๆ ไม่กลัวเจ้าของบ้านจะมาเห็น และจุดที่ก่อเหตุอยู่ในเขตชุมชน โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้แชร์คลิปดังกล่าว แต่ไม่ติดใจแจ้งความตำรวจตามจับไอ้โม่งแดงรายนี้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางธนภัทร บุญธรรม อายุ 47 ปี ชาวบ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้แชร์คลิปดังกล่าว และเป็นเจ้าของบ้านที่เปิดหน้าบ้านเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และเครื่องมือการเกษตร ขณะที่มีลูกค้าที่มาใช้บริการซ่อมและชาวบ้านที่ทราบเรื่อง ได้เข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางธนภัทรกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนกับสามีปิดร้านไว้ เพื่อไปธุระในตัวจังหวัด ขณะที่ของเก่าซึ่งส่วนมากเป็นอะไหล่รถจักรยานยนต์และอะไหล่เครื่องตัดหญ้า รวมทั้งเครื่องมือการเกษตรต่างๆ ถูกวางไว้หน้าร้านตามความเคยชิน เพราะไม่คิดว่าจะมีคนร้ายแอบมาลักขโมย ทั้งนี้ ตนกับสามีเปิดร้านมาประมาณ 10 ปี โดยเป็นร้านเล็กๆ ติดถนนสายปากทาง-เขื่อนลำปาว ไม่ได้สร้างรั้วล้อมรอบหน้าร้าน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุถูกลักขโมยของเก่า ซึ่งของเก่าก็เก็บรวบรวมไว้หน้าร้าน ใส่ถุงกระสอบว้าบ้าง วางกระจัดกระจายบ้าง นานๆจะก็มีพ่อค้าของเก่าแวะมารับซื้อ หรือบางครั้งก็จะนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าเอง ก็เพิ่งจะมีครั้งแรกที่ของเก่าถูกขโมยไป ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ พอตนกลับสามีกลับเข้าบ้าน สังเกตว่ากระสอบที่เก็บอะไหล่รถจักรยานยนต์เก่าจำนวน 3 กระสอบ เครื่องสูบน้ำเก่า 1 เครื่อง และอะไหล่เครื่องตัดหญ้าหายไป รู้สึกเอะใจ ว่ามันหายไปได้ยังไง จึงเปิดกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ดู ก็เห็นภาพชายในชุดไอ้โม่งแดงมาลักขโมยไปตามคลิปดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มูลค่าของเก่าที่ถูกขโมยไป หากนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 3,000 บาท
นางธนภัทรกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนกับสามีไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นคนร้ายเลย แต่ลึกๆก็รู้สึกเสียดายของเก่าที่ถูกขโมยไป เพราะของเก่าที่ถูกไอ้โม่งแดงขโมยไปนั้น ตนกับสามีเก็บสะสมมานานเป็นเดือน กว่าจะได้อะไหล่เก่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไปชั่งกิโลฯ ขายเป็นรายได้เสริมจากการซ่อมรถซ่อมจักรยานยนต์และซ่อมเครื่องตัดหญ้า แต่ก็คิดว่าคนที่มาขโมยน่าจะเป็นโจรมือใหม่ เพราะมาขโมยของกลางวันแสกๆ ไม่รู้จักสังเกตว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพตนอยู่ และก่อนจะขับจักรยานยนต์พ่วงท้ายที่บรรทุกของเก่าออกไป ยังมีการขับออกไปดูลาดเลาแล้วย้อนกลับมา จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ขับรถผ่านมาเห็นว่าปิดร้านไว้ พอมองเข้ามาเห็นของเก่าก็เกิดอารมณ์อยากได้ชั่ววูบ หรืออาจจะมีความจำเป็นต้องการเงินเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน ตนกับสามีจึงไม่ติดใจเอาความ และไม่คิดไปแจ้งความตำรวจท้องที่ ถึงแม้จะมีเพื่อนบ้านแนะนำไปแจ้งความ เพราะหากแจ้งความก็จะเป็นเรื่องเป็นราว เสียเวลาไปให้ปากคำ ทำให้เสียเวลาทำมากิน ถือเสียว่าให้ทานคนที่เข้าด้อยกว่าเรา อย่างไรก็ตาม หากคนร้ายคนดังกล่าวนำของเก่าที่ขโมยไปกลับมาคืนก็พร้อมจะให้อภัย และอยากจะบอกว่าอย่าไปก่อเหตุลักขโมยของชาวบ้านอีก เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ด้านนายธนกฤติ ภูถิ่นเชือก ญาตินางธนภัทร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเหตุลักขโมยในพื้นที่มีไม่บ่อยครั้งนัก ก็เพิ่งจะได้ยินว่าเกิดขึ้นมีครั้งนี้ ตามที่นางธนภัทรแชร์ให้ดู แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็อยากจะเตือนภัยไปถึงชาวบ้าน ให้เพิ่มความระมัดระวังทรัพย์สินในบ้านจะถูกคนร้ายลักขโมย เพราะช่วงนี้ เรียกได้ว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง คนว่างงานเยอะ รวมทั้งยังมีปัญหายาเสพติด จึงมีเหตุลักขโมยเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากจะออกจากบ้าน หรือไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าในที่ปลอดภัย และปิดบ้านไว้อย่างมิดชิดแน่นหนา เพื่อป้องกันมิจฉาชีพจะเข้ามาขโมย เหมือนเหตุการณ์ที้เกิดขึ้นในครั้งนี้ ป้องกันดีกว่าแก้ไข เพราะหากเกิดการสูญหายหรือถูกโจรลักขโมย ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะได้คืน
ขณะที่ พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่ามีเหตุลักทรัพย์ โดยผู้เสียหายรายดังกล่าว ไม่ได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นเหตุผลส่วนตัว แต่ทาง สภ.นากุงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบและสายตรวจตำบล เข้าไปสอบปากคำเบื้องต้นกับผู้เสียหาย และออกสืบสวนหาข่าว เพื่อออกติดตามตัวบุคคลที่ต้องสงสัยต่อไป เพราะอาจจะเกิดความย่ามใจ ไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านให้ได้รับความเดือดร้อนอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาเบาะแสอยู่.
ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์