ผู้การฯราชบุรี เตรียมสอบแพทย์ผู้ออกใบรับรองแพทย์ให้ “ส.ต.ท.หญิง” โหด

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เตรียมสอบแพทย์ผู้ออกใบรับรองแพทย์ให้ "ส.ต.ท.หญิง" โหด เผยต้องสอบโดยละเอียดเพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดราชบุรี (ผบก.ภ.จว.ราชบุรี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี ที่ “ส.ต.ท.หญิง” กรศศิร์ หรือ นุช อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายด้วยการทารุณทหารหญิงรับใช้จนตามตัวมีแต่รอยฟกช้ำและบาดแผล หลังจากที่ร้องให้นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ช่วยเหลือและได้พา “น้องเอ” ผู้เสียหายซึ่งเป็น อดีตทหารหญิง เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพงศ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ว่า ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนของคดีนี้เพื่อเร่งรัดให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดแล้ว โดยในวันนี้ (22 ส.ค.)จะส่งตัว ส.ต.ท.หญิง” กรศศิร์ ไปฝากขังและมีการคัดค้านการประกันตัว โดยในช่วงบ่ายวันนี้คงต้องรอการพิจารณาของศาล

นอกจากนี้ยังได้ให้พนักงานสอบสวนไปขยายผลเรียกสอบเพิ่มเติมแพทย์ที่ออกใบรับรองแพทย์ให้กับ ส.ต.ท.หญิง” กรศศิร์ ว่าก่อนจะออกใบรับรองแพทย์นั้นได้มีการตรวจร่างกายหรือมีการรักษามาก่อนหรือไม่ เรื่องนี้จะต้องมีการสอบสวนกันอย่างละเอียดเพราะใบรับรองแพทย์นั้นมีผลต่อทางคดีมาก ส่วนในฝั่งของผู้เสียหายก็จะส่งพนักงานสอบสวนไปดำเนินการเช่นกันว่ามีการรักษาพยาบาลเกิดขึ้นหรือไม่ มีอาการบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน

พล.ต.ต.ปิติ ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งประเทศ ทางตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักให้มากที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งคาดว่าทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการได้ภายในสัปดาห์นี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้กรมสุขภาพจิต ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณี “ส.ต.ท.หญิง” นำใบรับรองแพทย์มายืนยันกับทางตำรวจ โดยระบุว่าที่ลงมือทำร้ายร่างกายทหารหญิง เป็นเพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ โดยระบุว่า กรณีผู้กระทำความผิดที่อ้างความเป็นผู้ป่วยจิตเวชขอละเว้นการรับโทษตามกฎหมาย ได้สร้างความวิตกในสังคม ถึงการระบุความรับผิดชอบที่ผู้ก่อเหตุควรจะได้รับ

ด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า โดยส่วนมากแล้วร้ายผู้อื่นมักไม่ต่างจากสถิติในประชากรโดยรวม การด่วนสรุปว่าคดีสะเทือนขวัญต่างๆเกิดจากปัญหาสุขภาพจิตทั่วๆไปเพียงอย่างเดียวนั้น อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ความตื่นตระหนกและอาจสร้างตราบาปต่อผู้ที่กำลังบำบัดรักษาด้านสุขภาพจิตอยู่ในสังคม เพราะในทางปฏิบัติความเจ็บป่วยทางจิตที่จะมีผลต่อการรับโทษ เขียนไว้ชัดเจนในประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 65 ซึ่งผู้ใดกระทำความผิด ในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น

แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น เพียงแต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น นั่นหมายถึง ต่อให้มีใบรับรองว่าป่วยทางจิต หรืออยู่ในกระบวนการรักษา ก็ต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าความเจ็บป่วยนั้น ส่งผลต่อความสามารถในการรู้ผิดชอบ หรือการควบคุมตนเองมากน้อยแค่ไหน เช่น ผู้ป่วยโรคจิตเภทที่รักษาจนบรรเทาแล้วไปก่อคดีฆาตกรรม ก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นเหตุยกเว้นการรับโทษหรือรับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดได้

 

กรมสุขภาพจิต ขอสังคมให้ความสนใจต่อเรื่องปัญหาด้านสุขภาพจิต อย่างตระหนักแต่ไม่ตระหนกหรือวิตกกังวลมากจนเกินไป เนื่องจากเหตุโศกนาฏกรรมที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยจิตเวชเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ขอให้เชื่อมั่นในการตรวจประเมินทางนิติจิตเวชที่จะสร้างความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายในสังคม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น