ที่สุด “วันนี้ที่รอคอย” ของ ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายคัน ก็มาถึง 23 ส.ค.2565 คือวันขีดเส้นตายที่กลุ่มคนไม่ดีฝ่ายตรงข้ามประกาศว่าเป็นวันสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งนายกฯบนหอคอยงาช้างของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากนับตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 158 วรรค 4 ประกอบ มาตรา 264 วรรคแรก พล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากความเป็นนายกฯไปในทันที เพราะนั่งในตำแหน่งสร.1 มาแล้วเกิน 8 ปี หากนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลเอากฎหมายข้อใด เอารัฐธรรมนูญมาตราไหนมาหักล้าง คนกลุ่มนี้ก็ยืนกรานว่าพล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่งไปในวันนี้ เพราะ “เจตนารมย์” ของรัฐธรรมนูญ 2560 เขียนไว้อย่างนั้นชัดเจน
ใครอ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็นหรือแม้แต่พวกรู้กฎหมายแบบงูๆปลาๆอย่างผู้เขียน หากอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 เค้าก็ระบุไว้ชัด มีเนื้อหาวรรคอื่นที่เป็นสาระสำคัญประกอบด้วย วรรคแรก “พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกินสามสิบห้าคนประกอบกันเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน” วรรค 2 เขียนชัดว่า “นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตาม มาตรา 159” ขณะที่วรรค 3 ระบุว่า “ ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี” มาตรา 159 เขียนไว้ว่า “ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ เป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง..” ถามว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯสมัยแรก เมื่อ 24 ส.ค.2557 เป็นการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว (2557) มาตรา 19 คนเสนอชื่อคือตวง อันทะไชย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นสนช.ไม่ใช่ส.ส. คนรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง คือ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ไม่ใช่ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นที่บอกว่าต้องนับวาระการดำรงตำแหน่งพล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เป็นสร.1 ดูตลกโคตรพิลึก เพราะเลือกหยิบ มาตรา 158 วรรค 4 เรื่อง 8 ปีเพียงวรรคเดียวมาเชือดบิ๊กตู่ แต่ไม่เอาวรรคอื่นมาพูดถึงเลยทั้งๆที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาตามกระบวนการในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เลย
การตีความเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯไม่เกิน 8 ปีของบิ๊กตู่ จึงออกมาในลักษณะพวกมากลากไป เอาเสียงข้างมาก เอาสื่อจำนวนมาก เอาความคิดเห็นของนักวิชาการหัวเอียงข้าง คนฝั่งตรงข้ามมาถล่มบิ๊กตู่ด้านเดียว ปักธงตีความเรื่องเจตนารมย์เพียวๆ โดยไม่ดูข้อกฎหมายและเรื่องอื่นๆแวดล้อมประกอบเลย ต้องบอกว่าประเด็น 8 ปี นายกฯ คือ ไพ่ใบสุดท้ายที่พรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณ มีโอกาสใกล้เคียงในการล้มพล.อ.ประยุทธ์ได้มากที่สุด หลังคว้าน้ำเหลวมาสารพัดครั้งนับไม่ถ้วน ตั้งแต่อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ศึกซักฟอกพ.ศ.2564 และ พ.ศ.2565 ฯลฯ ส.ส.ฝ่ายค้านจนปัญญาที่จะล้มบิ๊กตู่จะคว่ำนายกฯลงได้ คงเหลือแค่ปม 8 ปี นายกฯนี้แหละที่จะเป็นดาบสุดท้ายในการฟันพล.อ.ประยุทธ์ให้ริบเลือน เที่ยวนี้จึงโหมหนักออกตัวแรงมากกว่าครั้งอื่น หนำซ้ำยังได้สื่อสายโจรกลุ่มหนึ่งทั้งทีวีทั้งเพจออนไลน์ ออกตัวเบื้องหน้าโดดลงไปอยู่ในวังวนความขัดแย้งด้วยตัวเอง เป็นสื่อสายพันธุ์ทุนนิยมสามานย์ เกลียดประยุทธ์อวยทักษิณเข้าเส้น เป็นพวกอีแอบที่ชอบด่าเจ้าชอบแซะสถาบัน ร่วมวงศ์ไพบูลย์กันปั่นกระแสสังคม เชิญคนมาโหวตกดดันไล่บี้นายกฯขยี้พล.อ.ประยุทธ์ให้พ้นจากตำแหน่ง ทำงานเกินเบอร์สื่อพ้นจากความรับผิดชอบที่บริสุทธิ์ไปมาก ปากพูดเป็นสื่อน้ำดีแต่เอาตีนเหยียบจริยธรรมถ่มน้ำลายรดจรรยาบรรณของวงการไปหมด มีอย่างที่ไหนศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ยืนยันรับหรือไม่รับคำร้องเรื่องนี้เลย แต่จับมือกันออกเคมเปญโหวตไล่นายกฯแบบโต้งๆ ถามชี้นำแบบตรงๆว่า “ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่เป็นนายกฯเกิน 8 ปีใช่หรือไม่” มันถูกต้องเหมาะสมไหม
ประเด็นเรื่องนี้ผิดถูก ตีความนับถอยหลังหรือนับไปหน้า จะนับตั้งแต่เป็นนายกฯเทอมแรก 24 ส.ค. 2557 นับจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเริ่มใช้ 6 เม.ย. 2560 หรือนับจากการเป็นนายกฯสมัย 2 ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันทั้งหมด เมื่อ 9 มิ.ย. 2562 ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ 9 อรหันต์ ยุคนี้เขาว่ากันไป เป็นสื่อไม่ควรเสือกไปยุ่ง ไม่งามที่จะยั่วยุปลุกปั่นให้คนหลงผิดเห็นชอบคล้อยตามธงของตัวเอง ต่อให้เสี้ยนสุดๆ คันคะเยออยากไล่พล.อ.ประยุทธ์ให้พ้นๆไปจากตำแหน่งอย่างแรง ก็ควรจะดูกาลเทศะดูความเหมาะสมของเหตุการณ์บ้านเมืองบ้าง ไม่ใช่อยากล่อบิ๊กตู่ตอนไหนอยากล้มนายกฯวันใดก็ออกมาตั้งโหวตไล่คนที่กูเกลียดดักหน้าเอากระแสสังคมกดดันศาลรัฐธรรมนูญซะอย่างนั้น มันทุเรศมากไปเพราะทำให้เห็นความชั่วความอยากทำให้คนไทยได้รู้ “ธาตุแท้” และ “สันดานสื่อ” ได้หมด ใครเป็นใคร ใครอยู่ฝ่ายไหน ใครสื่อจริงใครสื่ออีแอบ พวกนักวิชาการจาก 8 มหาวิทยาลัยที่ไปผสมโรงกับสื่อเลวพวกนี้ก็เหมือนกัน กินภาษีชาวบ้านงานการสอนหนังสือไม่รู้จักทำ วันๆนั่งเทียนด่าประยุทธ์มีสุขกับการหามุกล้มรัฐบาล การศึกษาบ้านเราถึงได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพราะนักวิชาการเหี้ยๆบางคน อาจารย์เปรตๆบางพวก ซึ่งเป็นส่วนน้อยแต่เสียงดัง ไม่รู้จักหน้าที่ เอาปัญญาไปรับใช้นักการเมือง เอาสมองไปเป็นขี้ข้าพวกโกงชาติรุมโทรมบ้านเมืองล้มสถาบัน เด็กไทยยุคใหม่การเรียนเลยบรรลัย ส่งผลให้การศึกษาเมืองไทยเลยห่วยแตก เพราะ “แม่แบบ-พ่อแบบ” มันโหล่ยโท่ย เรือจ้างมันผุพัง หากินหาแดกแลกผลประโยชน์ไปวันๆ เด็กไทยส่วนใหญ่เลยไม่มีรากเหง้า ลอยคอรอวันจมน้ำตายเหมือนปลาขาดอ็อกซิเจน ไม่รู้จักบุญคุณคน ไม่เคารพไม่เห็นคุณค่าสถาบัน ไม่รักชาติไม่ทรนงในแผ่นดินเกิด
ปม 8 ปีพล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้ที่ออกมาโหมโรงกันหนักๆ หวังว่า 23-24 ส.ค. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับลูก ตัดสินคดีตีความกันให้เอิกเกริก ไปๆมาๆ ล่าสุด เมื่อวานนี้ 22 ส.ค. จนท.สภาเพิ่งเอาหนังสือยื่นคำร้องจาก 171 ส.ส.ฝ่ายค้านยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ จากนี้กระบวนการขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลาอีกเป็นพะเรอเกวียน ถ้ารับคำร้องอย่างน้อยกินเวลาเป็นเดือนกว่าศาลจะอ่านคำวินิจฉัย เพราะฉะนั้น 23-24 ส.ค.ที่หวังจะฉลองชัยขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ได้สำเร็จ งานนี้บอกเลยฝันค้างฝันเปียกแน่นอน เต็มที่ก็คงมีแค่จัดคนมาเย้วๆ เดินขบวนไล่พล.อ.ประยุทธ์แก้เก้อเพื่อไม่ให้เสียหน้าเท่านั้นเอง จะหวังเกิดผลนายกฯหลุดตำแหน่งง่ายๆไม่มีทาง ดูทรงจากเสียงตอบรับจากประชาชน หรือความตื่นตัวที่จะออกมาขับไล่นายกฯ ตามความต้องการของนายใหญ่ตามใบสั่งของนายห้างดูไบ ชัดเจนว่าคงแป็กส่อเหลวแน่นอน เพราะคนไทยไม่อินชาวบ้านไม่เอาด้วย เอาง่ายๆดูม็อบหลอมรวมประชาชนของคู่หู “ตุ๊ดตู่ -นกเขา” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ นิติธร ล้ำเหลือ ก็แค่ม็อบหลักร้อยเต็มที่ก็แค่หลักพัน ประกาศตัวใหญ่โตหลอมรวมประชาชน เอาเข้าจริงก็แค่ “ม็อบหร็อมแหร็ม” จุดไม่ติดปลุกไม่ขึ้น กลายเป็น “ม็อบนกเขาไม่ขัน” บอกตามตรงหมดยุคเรืองรองของจตุพรนิติธรแล้ว ออกมาไล่บิ๊กตู่รอบนี้มีแต่คนสมเพชเวทนา สังขารไม่ให้แต่ใจรัก เพียงแต่รอบนี้อ่านเกมผิดคนไทยเข้าไม่บ้าร่วมวงออกมาไล่คนดีๆอย่างพล.อ.ประยุทธ์ให้เสียเวลาทำมาหากินหรอก
ตอนนี้มีความพยายามที่จะเคลื่อนไหวกันเป็นขบวนการเพื่อสร้างแรงกดดันจากสังคมถาโถมไปถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้านหนึ่งสื่อพันธุ์ทางจับมือนักวิชาการทาสนักการเมืองจัดโหวตไล่พล.อ.ประยุทธ์ตั้งคำถามชี้นำสังคม ให้สัมภาษณ์ออกบทความแสดงความเห็นผ่านสื่อรุกไล่บิ๊กตู่อย่างมีนัยยะสำคัญ ด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยให้ส.ส.ให้แกนนำออกมาขย่มให้สัมภาษณ์สื่อถี่ๆออกแถลงการณ์ให้พล.อ.ประยุทธ์เสียสละเพื่อบ้านเมืองเรียกร้องให้ออกเพื่อชาติ อีกด้านก็จัดสารพัดม็อบชุมนุมสภาบุกรุกทำเนียบแสดงสัญญาลักษณ์ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ตะเบิดบิ๊กตู่ให้พ้นจากเก้าอี้สร.1 23 ส.ค.2565 นัดกันหลายจุดต่อเนื่องไปถึงพรุ่งนี้ 24 ส.ค. หวังเอากฎหมู่เอากระแสเอาพวกมากลากไป สร้างกระแสโหมเรื่องราวไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปต่อ ใช้ประโยคเดิมๆพูดแค่ว่าบิ๊กตู่รากงอกอยู่ยาวเกิน 8 ปี เป็นอภิสิทธิ์ชนฝ่าฝืนกฎหมายอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นประเด็นตีความข้อกฎหมายเรื่องวาระการทำหน้าที่ของนายกฯ ไม่ใช่ประเด็นนายกฯไปโกงใครไปทำผิดกฎหมายหรือไปทำร้ายบ้านเมือง ล่าสุด ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา ก็ออกมาปราบพวกศาลเตี้ย คิดเองเออเองตัดสินเอง “ คนไทยทุกคนโดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส. ที่ร่วมกันลงชื่อให้ส่งเรื่องนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมวินิจฉัย กับกลุ่มคนที่เรียนวิชากฎหมายและเรียกตัวเองว่านักกฎหมายไม่ว่าด้านใด ควรต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า วินิจฉัยอย่างไร ไม่ใช่ออกมาตัดสินชี้ขาดกันเองอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ….. ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติส่งเรื่องไปให้ฝ่ายตุลาการวินิจฉัยแล้ว ไม่รอฟังคำวินิจฉัย แต่ตัดสินกันเองแล้ว จะส่งไปทำไม และจะมีศาลรัฐธรรมนูญไว้เพื่ออะไร ทั้งการที่ไม่ยอมรอรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าท่านไม่ยอมรับอำนาจฝ่ายตุลาการ ถ้าเป็นเช่นนั้นยังเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอีกหรือ” อาจารย์ชูชาติออกโรงอัดพวกเก่งกว่าศาล
ขณะที่ “ด็อกเตอร์สามสี” ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ ก็ออกโรงเตือนสติพวกกระหายอำนาจ ที่พยายามปลุกคนมาลงถนนอีกครั้งในเที่ยวนี้ “ ปัญหาเรื่องการนับวาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 จึงควรปล่อยให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาชี้ขาด ไม่ควรที่ใครจะตีความกันเอาเองตามอำเภอใจ หรือเพื่อเอาใจใคร แล้วใช้ความเป็นอนาธิปไตย ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นกับบ้านเมือง ประเทศได้รับความบอบช้ำมามากแล้วด้วยวิธีการดังกล่าว(ไม่ว่าจะจากฝ่ายไหนก็ตาม) ไม่คิดเมตตาปล่อยให้ประเทศได้มีความมั่นคง ไม่วุ่นวายจนไม่มีใครอยากมาลงทุน ไม่คิดจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศได้เดินหน้าสู่ความเจริญและมีการพัฒนาเหมือนอย่างประเทศอื่นที่ดีๆ ไม่มีความวุ่นวายไม่รู้จบไม่รู้สิ้นกันบ้างเลยหรือครับ” ไตรรงค์เบิกเนตรพวกป่วนบ้านปั่นเมือง จากนี้ก็ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ จะสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างพิจารณาคดีไหม แล้วปลายทางของเรื่องนี้จะจบอย่างไร ไม่รอดพ้นวาระ รอดไปต่อ 2 ปี หรือ รอดไปยาว 4 ปี ทั้งหลายทั้งมวลทุกฝ่ายต้องฟังศาลต้องเคารพศาล อย่าเอาความคิดกูความต้องการของพวกกูอยู่เหนือกฎหมายอยู่เหนือความถูกผิดของบ้านเมืองอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ รออีก 6-7 เดือนก็จะเลือกตั้งอยู่แล้ว จบประชุมเอเปก 18-19 พ.ย. นี้ อีก 1-2 เดือน บิ๊กตู่ก็ยุบสภาแล้ว จะคันจะเงี่ยนกันไปถึงไหน พ่อคูณแม่คูณเอ้ย ขอเวลาอีกหน่อยให้บิ๊กตู่ทำงานใหญ่เพื่อบ้านเมือง จัดประชุมเอเปคต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอย่างงามสง่า ไม่มีม็อบไม่มีความวุ่นวายในกรุงเทพฯโชว์ต่างชาติให้ชาวโลกเห็นบ้างได้ไหม ข้าวของแพงน้ำมันขึ้น โรคภัยไข้เจ็บกลังระบาด จบโควิด-19 ก็มีฝีดาษลิงมาต่ออีก วันๆคิดแต่เรื่องการเมืองสมองคิดแต่จะล้มบิ๊กตู่อย่างเดียวหรือ คนไทย 3 แสนกว่าอาจอยากให้พล.อ.ประยุทธ์พ้นไปจริงๆเหมือนที่กลุ่มสื่อใจบาปทำคอนเทนต์ไว้ แต่คนไทยอีกหลายสิบล้านคนอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ เพราะจะช่วยให้บ้านเมืองอยู่รอด สถาบันอันเป็นที่รักได้พ้นภัย ชาติไทยร่มใหญ่ก็แคล้วคลาด มีแต่พวกอัปรีย์บ้านจัญไรย์เมืองเท่านั้นแหละที่อยากให้ฝ่ายโกงชาติเผาบ้านเมืองกลับมาครองแผ่นดิน
///////////////////