ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23:00 น วันที่ 27 สิงหาคม 2565 ร.ต.ท. หญิง มนัสนันท์ บุรีภักดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนจักรยานยนต์และเสียหลักชนรั้วชาวบ้าน เหตุเกิดที่ถนนในหมู่บ้านบ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนมมีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงประสานกู้ภัยศรีสัตตนครพนมพร้อมรถพยาบาลรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียวสีขาวหมายเลขทะเบียน ษธ 5224 สระแก้ว ชนกับรถจักรยานยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กข 4403 นครพนม แล้วลากมาชนกับรั้วของชาวบ้านมีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 2 คน เป็นวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักยานยนต์พร้อมมีดสปาต้ามีดขอด้ามยาวและดาบซามูไร ที่พกติดตัวมาด้วย โดยนาย เอ นามสมมติ ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บขาขวาหักผิดรูปและมีแผลถลอกตามร่างกาย ส่วนนายบี ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกันอายุ 16 ปี มีบาดแผลแตกที่คิ้วซ้ายและมีแผลถลอกตามร่างกาย โดยทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม
นอกจากนั้นยังพบนายมลเทียน ราศี อายุ 26 ปี ชาว ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม รับว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันเกิดเหตุและได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง โดยเล่าว่าก่อนเกิดเหตุน้องชายของตน คือนายซี นามสมมติ หลังจากเลิกงานในเมืองแล้วขณะขับขี่รถจักรยายนต์จะกลับบ้าน เมื่อถึงบริวเณโค้งวิทยาลัยเทคนิคนครพนม ก็มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ประมาณยี่สิบคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาประมาณ 10 กว่าคัน ขับไล่นายซี พร้อมเงื้อง่ามีดดาบและอาวุธมีดอีกหลายชนิดไล่ทำร้ายนายซี แต่นายซีสามารถขับรถหลบหนีเข้าบ้านมาได้และมาเล่าเหตุการณ์ให้ตนฟัง ตนจึงชวนน้องนั่งรถยนต์กระบะออกมาตามหากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว เพื่ออยากทราบว่าเป็นกลุ่มไหน และก็เจอกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอยู่ปากทางเข้าบ้านหัวโพน เมื่อพบเห็นนายซีและตน กลุ่มวัยดังกล่าวก็ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามารุมจะทำร้ายอีกทันที ตนจึงขับรถหนีแต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวก็ขับรถไล่พร้อมใช้มีดฟันและขว้างระเบิดปิงปองและระเบิดขวดไส่รถตน ตนเห็นจวนตัวจึงขับรถชนจักยานยนต์คันหนึ่งและรถเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาหน้าบ้านและกำแพงบ้านได้รับความเสียหายดังกล่าว
โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบมีดสปาต้า มีดขอและดาบซามูไร ที่กลุ่มวัยรุ่นใช้ก่อเหตุ พร้อมระเบิดปิงปองที่ประกอบเองตกในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าได้ยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมอายัดตัวผู้ก่อเหตุเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปโดยคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนก่อเหตุลักษณะแบบนี้มาก่อนหน้านี้หลายครั้งล่าสุดก่อเหตุไล่ฟันวัยรุ่นที่ขับขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว และก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย.
ข่าว/ภาพ ภัทรพล ปีติชารัชต์- ประทีป วชิระธัญญากูล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม